กรรมการบริหาร"โฟล์คสวาเกน"เรียกตัวซีอีโอแจงข่าวฉาว ก่อนบอร์ดใหญ่ชี้ชะตาศุกร์นี้

ข่าวต่างประเทศ Wednesday September 23, 2015 20:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คณะกรรมการบริหารของโฟล์คสวาเกน เอจี บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของเยอรมนี เรียกตัวนายมาร์ติน วินเทอร์คอร์น ซีอีโอของบริษัท เข้าชี้แจงในวันนี้ กรณีมีข่าวอื้อฉาวว่าทางบริษัทได้โกงการตรวจสอบการปล่อยมลพิษจากรถยนต์ดีเซลในสหรัฐให้ดูดีเกินจริง

ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหาร 5 คนดังกล่าวจะรับฟังคำชี้แจงของนายวินเทอร์คอร์น ก่อนที่จะเสนอข้อแนะนำต่อบอร์ดบริหารชุดใหญ่เกี่ยวกับอนาคตของเขาในการประชุมวันศุกร์นี้

คาดว่าบอร์ดบริหารจะทำการตัดสินใจอย่างยากลำบาก เนื่องจากในช่วงเวลา 8 ปีของการดำรงตำแหน่งของนายวินเทอร์คอร์น เขาได้ช่วยทำให้บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า และกำไรเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า

หนังสือพิมพ์ Tagesspiegel ของเยอรมนีรายงานว่า บริษัทโฟล์คสวาเกนเตรียมปลดนายวินเทอร์คอร์น ออกจากตำแหน่ง จากกรณีอื้อฉาวที่บริษัทได้โกงผลการตรวจสอบการปล่อยมลพิษของรถยนต์ในสหรัฐ

Tagesspiegel รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่ไม่ระบุชื่อในคณะกรรมการบริหารของโฟล์คสวาเกนว่า นายมัทเทียส มูลเลอร์ ซึ่งเป็นประธานฝ่ายธุรกิจรถสปอร์ตของปอร์เช่ ซึ่งอยู่ในเครือของโฟล์คสวาเกน จะเข้ามารับตำแหน่งแทนที่นายวินเทอร์คอร์น

ราคาหุ้นโฟล์คสวาเกนดีดตัวขึ้นในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นแฟรงเฟิร์ตวันนี้ หลังจากร่วงลง 7% ในช่วงแรก ต่ำกว่าระดับ 100 ยูโรเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 4 ปี

เมื่อวานนี้ ราคาหุ้นบริษัทดิ่งลง 17% ขณะที่ทรุดตัวลง 20% ในวันจันทร์ ส่งผลให้มูลค่าตลาดของโฟล์คสวาเกนหายไปเกือบ 2.5 หมื่นล้านยูโร (2.8 หมื่นล้านดอลลาร์) ภายในเวลาเพียง 2 วัน

ทางการสหรัฐระบุว่าโฟล์คสวาเกนจงใจติดตั้งซอฟท์แวร์ในรถยนต์ดีเซลเกือบ 5 แสนคันเพื่อทำให้ดูเหมือนว่ามีการปล่อยไอเสียน้อยกว่าความเป็นจริง

หากพบว่าบริษัทมีความผิดจริง ก็จะถูกทางการสหรัฐปรับเป็นเงินจำนวน 37,500 ดอลลาร์ต่อคัน ซึ่งจะรวมกันมากกว่า 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 650,000 ล้านบาท

โฟล์คสวาเกนได้ยอมรับว่าได้ทำการติดตั้งโปรแกรมดังกล่าวในรถยนต์ของบริษัทจำนวน 11 ล้านคันทั่วโลก

โปรแกรมที่ทางบริษัทติดตั้งในรถยนต์ดีเซลจะทำให้เครื่องยนต์เข้าสู่โหมดพลังงานสะอาด หากกำลังถูกเจ้าหน้าที่ทำการตรวจจับมลพิษ และหากผ่านพ้นช่วงดังกล่าว โปรแกรมก็จะทำให้รถยนต์กลับมาอยู่ในโหมดขับขี่ปกติ ซึ่งจะทำให้มีการปล่อยมลพิษมากกว่าเกณฑ์มาตรฐานตามกฎหมายถึง 40 เท่า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ