นักวิเคราะห์ประสานเสียงฟันธงข่าวฉาว"โฟล์คสวาเกน"ทุบเศรษฐกิจเยอรมนี

ข่าวต่างประเทศ Wednesday September 23, 2015 23:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์แสดงความกังวลต่อข่าวอื้อฉาวของโฟล์คสวาเกน เอจี บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของเยอรมนี ที่ได้โกงการตรวจสอบการปล่อยมลพิษจากรถยนต์ดีเซลในสหรัฐ โดยวิตกว่าข่าวดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจเยอรมนี

นายคาร์สเทน เซสกี หัวหน้านักวิเคราะห์ของบริษัทไอเอ็นจี กล่าวว่า วิกฤตการณ์ผู้อพยพในยุโรป และข่าวอื้อฉาวของโฟล์คสวาเกน จะสร้างความเสี่ยงครั้งใหม่ต่อเศรษฐกิจเยอรมนี

นายเซสกียอมรับว่า แม้ว่าขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าผลกระทบจากวิกฤตการณ์โฟล์คสวาเกนจะรุนแรงเพียงใด แต่ปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลกระทบไม่น้อย เนื่องจากโฟล์คสวาเกนเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ และมีการจ้างงานจำนวนมาก และที่ผ่านมา ทางบริษัทมีส่วนช่วยผลักดันเศรษฐกิจเยอรมนี

ทางด้านนางเจนนิเฟอร์ แมคคีโอนจากแคปิตอล อีโคโนมิคส์ ระบุว่า ข่าวอื้อฉาวของโฟล์คสวาเกนจะสร้างความเสี่ยงครั้งใหม่ต่อเศรษฐกิจเยอรมนี ควบคู่ไปกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมรถยนต์นับเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจเยอรมนี ขณะที่ช่วยสร้างงานจำนวนมากในประเทศ

นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เรียกร้องให้บริษัทโฟล์คสวาเกน แสดงความโปร่งใสในการรีบออกมาชี้แจงต่อข่าวอื้อฉาวดังกล่าว

"เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ที่ยากลำบากในขณะนี้ สิ่งที่บริษัทจำเป็นต้องทำคือการแสดงความโปร่งใส และชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด" นางแมร์เคิลกล่าว หลังผู้สื่อข่าวถามว่ามีความวิตกหรือไม่ว่าข่าวอื้อฉาวดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ของเยอรมนี

ความเห็นของผู้นำเยอรมนีดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่สหรัฐระบุว่าโฟล์คสวาเกนจงใจติดตั้งซอฟท์แวร์ในรถยนต์ดีเซลเกือบ 5 แสนคันเพื่อทำให้ดูเหมือนว่ามีการปล่อยไอเสียน้อยกว่าความเป็นจริง

หากพบว่าบริษัทมีความผิดจริง ก็จะถูกทางการสหรัฐปรับเป็นเงินจำนวน 37,500 ดอลลาร์ต่อคัน ซึ่งจะรวมกันมากกว่า 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 650,000 ล้านบาท

โฟล์คสวาเกนได้ยอมรับว่าได้ทำการติดตั้งโปรแกรมดังกล่าวในรถยนต์ของบริษัทจำนวน 11 ล้านคันทั่วโลก ซึ่งจะทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับการแจ้งผลปล่อยมลพิษไม่ถูกต้อง

โปรแกรมที่ทางบริษัทติดตั้งในรถยนต์ดีเซลจะทำให้เครื่องยนต์เข้าสู่โหมดพลังงานสะอาด หากกำลังถูกเจ้าหน้าที่ทำการตรวจจับมลพิษ และหากผ่านพ้นช่วงดังกล่าว โปรแกรมก็จะทำให้รถยนต์กลับมาอยู่ในโหมดขับขี่ปกติ ซึ่งจะทำให้มีการปล่อยมลพิษมากกว่าเกณฑ์มาตรฐานตามกฎหมายถึง 40 เท่า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ