นายกาเบรียลยังเรียกร้องให้ทางบริษัททำการสอบสวนเรื่องดังกล่าวอย่างละเอียด และหาสาเหตุที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ดี เขาระบุว่า ข่าวอื้อฉาวดังกล่าวไม่ควรสะท้อนในแง่ลบต่อบริษัท และอุตสาหกรรมรถยนต์ในเยอรมนีทั้งหมด
ทางด้านนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เรียกร้องก่อนหน้านี้ให้โฟล์คสวาเกน แสดงความโปร่งใสในการรีบออกมาชี้แจงต่อข่าวอื้อฉาวดังกล่าว
"เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ที่ยากลำบากในขณะนี้ สิ่งที่บริษัทจำเป็นต้องทำคือการแสดงความโปร่งใส และชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด" นางแมร์เคิลกล่าว หลังผู้สื่อข่าวถามว่ามีความวิตกหรือไม่ว่าข่าวอื้อฉาวดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ของเยอรมนี
ความเห็นของผู้นำเยอรมนีถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่สหรัฐระบุว่าโฟล์คสวาเกนจงใจติดตั้งซอฟท์แวร์ในรถยนต์ดีเซลเกือบ 5 แสนคันเพื่อทำให้ดูเหมือนว่ามีการปล่อยไอเสียน้อยกว่าความเป็นจริง
หากพบว่าบริษัทมีความผิดจริง ก็จะถูกทางการสหรัฐปรับเป็นเงินจำนวน 37,500 ดอลลาร์ต่อคัน ซึ่งจะรวมกันมากกว่า 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 650,000 ล้านบาท
โฟล์คสวาเกนได้ยอมรับว่าได้ทำการติดตั้งโปรแกรมดังกล่าวในรถยนต์ของบริษัทจำนวน 11 ล้านคันทั่วโลก ซึ่งจะทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับการแจ้งผลปล่อยมลพิษไม่ถูกต้อง
โปรแกรมที่ทางบริษัทติดตั้งในรถยนต์ดีเซลจะทำให้เครื่องยนต์เข้าสู่โหมดพลังงานสะอาด หากกำลังถูกเจ้าหน้าที่ทำการตรวจจับมลพิษ และหากผ่านพ้นช่วงดังกล่าว โปรแกรมก็จะทำให้รถยนต์กลับมาอยู่ในโหมดขับขี่ปกติ ซึ่งจะทำให้มีการปล่อยมลพิษมากกว่าเกณฑ์มาตรฐานตามกฎหมายถึง 40 เท่า