ทั้งนี้ ราคาหุ้นโฟล์คสวาเกนร่วงลง 3.1% สู่ระดับ 122.45 ยูโรในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นแฟรงเฟิร์ตเช้านี้ โดยเป็นหุ้นที่ปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในตลาด
เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐเปิดเผยว่า โฟล์คสวาเกนอาจถูกสั่งปรับเป็นเงินกว่า 9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นคันละ 37,500 ดอลลาร์ต่อการฝ่าฝืนกฎหมายหนึ่งครั้ง
กระทรวงยุติธรรมได้ยื่นฟ้องคดีแพ่งในนามของสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐ (EPA) ต่อศาลประจำเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน โดยมีโฟล์คสวาเกน ออดี้ และปอร์เช่ เป็นจำเลย
คำร้องเรียนดังกล่าวระบุว่า รถยนต์ดีเซลของโฟล์คสวาเกนเกือบ 600,000 คันที่จำหน่ายในสหรัฐได้มีการติดตั้งอุปกรณ์อย่างผิดกฎหมาย ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวทำหน้าที่โกงระบบควบคุมไอเสียเพื่อให้ผ่านมาตรฐานของ EPA จนก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศที่เป็นอันตราย
ก่อนหน้านี้ โฟล์คสวาเกนยอมรับว่าทางบริษัทได้ติดตั้งซอฟท์แวร์ที่ทำให้มีการปล่อยมลพิษน้อยกว่าความเป็นจริงในการตรวจสอบที่สหรัฐ โดยซอฟท์แวร์ที่ทางบริษัทติดตั้งในรถยนต์ดีเซลจะทำให้เครื่องยนต์เข้าสู่โหมดพลังงานสะอาด หากกำลังถูกเจ้าหน้าที่ทำการตรวจจับมลพิษ และหากผ่านพ้นช่วงดังกล่าวโปรแกรมก็จะทำให้รถยนต์กลับมาอยู่ในโหมดขับขี่ปกติ ซึ่งจะทำให้มีการปล่อยมลพิษมากกว่าเกณฑ์มาตรฐานตามกฎหมายถึง 40 เท่า
ด้านนายจอห์น ซี ครูเด็น ผู้ช่วยอัยการสูงสุดประจำฝ่ายสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติในสังกัดกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ กล่าวว่า "สหรัฐอเมริกาจะบังคับให้โฟล์คสวาเกนดำเนินการแก้ไขความเสียหายตามความเหมาะสม เพื่อชดใช้การฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยอากาศบริสุทธิ์ของสหรัฐ"
นอกจากนี้ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐเปิดเผยว่า การยื่นฟ้องคดีแพ่งครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลสหรัฐจะไม่เรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มขึ้นอีก