สเตฟาน ดูจาร์ริค โฆษกสหประชาชาติ กล่าวว่า "ในอนาคตอันใกล้นี้ น่าจะมีการใช้ยาฆ่าแมลงเพื่อพ่นใส่ยุงหรือบำบัดน้ำเพิ่มขึ้นมาก"
อย่างไรก็ตาม FAO เน้นย้ำว่า ควรมีการยกระดับมาตรการรับมือให้ฉับไวและเรียบง่ายยิ่งขึ้นเพื่อจัดการกับการแพร่ระบาดของไวรัสซิกา โดยนายดูจาร์ริค กล่าวว่า "เพื่อกำจัดแหล่งน้ำนิ่งอันเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุง"
โฆษกสหประชาชาติกล่าวว่า "หากมีความจำเป็นต้องใช้ยาฆ่าแมลงจริงๆแล้ว ทาง FAO ก็ได้ชี้แนะว่าควรมีการดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อส่งเสริมความปลอดภัยของมนุษย์และปกป้องห่วงโซ่อาหารจากการปนเปื้อน"
ทั้งนี้ ไวรัสซิกามียุงลายเป็นพาหะนำโรคเช่นเดียวกับเชื้อไวรัสชิคุนกุนยาและไวรัสไข้เลือดออก ซึ่งคาดกันว่า ไวรัสซิกามีส่วนก่อให้เกิดความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด จึงเป็นสาเหตุให้มีการชี้แนะให้หญิงในบราซิล โคลอมเบีย และเอลซัลวาดอร์ หลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดนี้
ไวรัสซิกาถูกตรวจพบครั้งแรกที่ทวีปแอฟริกา ในฝูงลิงแห่งป่า Zika Forest ประเทศยูกันดาเมื่อปี 2490 อาการโดยทั่วไปจะรวมถึงอาการปวดศีรษะ มีไข้ต่ำๆ เยื่อตาอักเสบ ตาแดง ปวดตามข้อและมีผื่นแดงตามผิวหนัง โดยผู้ที่ติดเชื้อส่วนใหญ่มักไม่แสดงอาการ
ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันหรือยาที่จะรักษา ผู้ป่วยมักจะได้รับคำแนะนำให้พักผ่อนและดื่มน้ำมากๆ โดยจะเป็นการรักษาไปตามอาการ และผู้ป่วยจะหายได้เองใน 7 วัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน