สำหรับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม บรี ลาร์สัน จาก Room ถือเป็นเต็งหนึ่งในสาขานี้ โดยเธอชนะรางวัลลูกโลกทองคำปีนี้ในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ภาพยนตร์ดรามา และชนะรางวัล BAFTA Awards ในปีนี้ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ในส่วนนักแสดงนำชายนั้น เราอาจจะได้เห็นลีโอนาร์ดิ ดิคาร์ปริโอคว้าออสการ์ในปีนี้ได้สักที หลังจากผิดหวังจากการเข้าชิงปีก่อนๆถึง 4 ครั้ง เพราะในปีนี้ดิคาร์ปริโอเนื้อหอมกวาดรางวัลมากมายจากหลายสำนัก ไม่ว่าจะเป็นรางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ภาพยนตร์ดรามา และรางวัล BAFTA Awards สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
สำหรับงานออสการ์ปีนี้จะจัดขึ้นที่ดอลบีเธียร์เตอร์ในเมืองลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ ในวันอาทิตย์ที่ 28 ก.พ. ตั้งแต่เวลา 16.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น เป็นต้นไป (จันทร์ที่ 29 ก.พ. เวลา 7.00 น.ตามเวลาไทย) รายชื่อภาพยนตร์และนักแสดงที่ได้รับการเสนอชื่อชิงออสการ์ มีดังนี้
*สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม -- The Big Short (เกมฉวยโอกาสรวย) สร้างจากเรื่องจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อนช่วงวิกฤตการเงินปี 2008 ในสหรัฐ โดยบอกเล่าเรื่องราวผ่านตัวละครหลัก 4 คน คือ ดร.ไมเคิล เบอร์รี่ (คริสเตียน เบล) ที่ปรึกษาด้านการลงทุนของบริษัทกองทุนแห่งหนึ่ง ผู้เริ่มมองเห็นความเสี่ยงของกองทุนบ้าน ท่ามกลางตลาดบ้านที่กำลังเฟื่องฟู และพยายามฉวยโอกาสทำกำไรมหาศาลจากความเสี่ยงที่ว่านี้ ขณะเดียวกัน จาเรต เวนเนต (ไรอัน กอสลิง) เทรดเดอร์หนุ่มจอมวัดดวงจากดอยช์แบงก์ไปได้ยินแนวคิดดังกล่าว จึงหาข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนบ้านไปเสนอบรรดาผู้จัดการกองทุนและบริษัทหลักทรัพย์ แต่กลับไม่มีใครสนใจ ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน เขาได้ติดต่อกับมาร์ค บาม (สตีฟ คาเรล) ผู้จัดการกองทุนหัวต่อต้านระบบโดยบังเอิญ มาร์ค บามจึงลองให้เวนเนตเข้ามาอธิบายข้อมูล และเกิดรู้สึกสะดุดใจจึงส่งลูกน้องไปสำรวจโครงการบ้านจัดสรร แล้วพบว่าสิ่งที่เวนเนตพูดมีแนวโน้มเป็นไปได้ ด้านเบน ริกเกต (แบรด พิตต์) อดีตนายธนาคารผู้คร่ำหวอดในแวดวงการเงิน ได้หวนคืนสู่วงการอีกครั้ง ตามคำร้องขอของชาร์ลี เกลเลอร์ (จอห์น มากาโร) และเจมี ชิปลีย์ (ฟินน์ วิตต์ร็อค) นักลงทุนหน้าใหม่ฝีมือไม่ธรรมดา เพื่อช่วยให้สองหนุ่มร่ำรวยจากการเทรดกองทุนตามที่ใฝ่ฝันไว้ แม้ว่า The Big Short เน้นนำเสนอเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจเป็นหลัก แต่โทนของภาพยนตร์ออกไปในทางตลกร้าย และอธิบายคำศัพท์เฉพาะด้วยการเปรียบเทียบให้เห็นภาพ จึงดูเข้าใจไม่ยากจนเกินไป และถือเป็นภาพยนตร์ที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่ง -- Bridge of Spies Bridge of Spies (จารชนเจรจาทมิฬ) ได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จริงในช่วงสงครามเย็น โดยเรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อสายลับของโซเวียตชื่อ รูดอล์ฟ เอเบิล (รับบทโดย มาร์ค ไรแลนซ์) ถูกอเมริกาจับตัวได้ ขณะเดียวกันนักบินสอดแนมของอเมริกาชื่อฟรานซิส แกรี พาวเวอร์ส (รับบทโดย ออสติน สโตเวลล์) ก็ถูกโซเวียตจับตัวได้เช่นกัน ทนายชาวอเมริกันนามว่า เจมส์ โดโนแวน (รับบทโดย ทอม แฮงค์ส) จึงได้รับมอบหมายจาก CIA ให้ทำหน้าที่เจรจาต่อรองแลกเปลี่ยนเชลยในภารกิจที่แทบไม่มีทางเป็นไปได้ -- Brooklyn Brooklyn (บรู๊คลิน) เป็นภาพยนตร์โรแมนติกดราม่า ผลงานกำกับของ จอห์น โครว์ลีย์ ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม และนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม เนื้อเรื่องเล่าถึงชีวิตของ ไอริส เลซีย์ หญิงสาวจาก เอนนิสคอร์ธี เมืองเล็กๆ ทางตอนใต้ของประเทศไอร์แลนด์ ในช่วงปี 1952 ที่เดินทางจากบ้านมายังบรู๊คลิน สหรัฐอเมริกา เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นจากการสนับสนุนของพี่สาวที่ชื่อโรส ไอริสเริ่มต้นชีวิตในเมืองใหญ่ที่แสนจะแตกต่างจากบ้านเกิดด้วยการเป็นพนักงานขายสินค้าหรูในห้างบาร์โตซี่พร้อมกับเรียนบัญชีภาคค่ำในมหาวิทยาลัยไปด้วย ระหว่างนี้ไอริสได้พบกับโทนี หนุ่มอิตาลี ทั้งสองรักและหวังจะมีอนาคตร่วมกัน ทว่า โรส พี่สาวของเธอจากไปอย่างกระทันหันด้วยอาการป่วยที่ปกปิดไว้ ไอริสจำต้องเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อเป็นกำลังใจให้แม่ซึ่งเหลือเพียงตัวคนเดียว การกลับมาครั้งนี้ทำให้เธอต้องเลือกระหว่าง โทนี แฟนหนุ่มซึ่งเฝ้ารอการกลับมาของเธออยู่ที่บรู๊คลิน และ จิม หนุ่มฐานะดี มีการศึกษาจากบ้านเกิด -- Mad Max: Fury Road Mad Max: Fury Road (แมดแม็กซ์ ถนนโลกันตร์) เป็นผลงานของผู้กำกับแดนจิงโจ้อย่างจอร์จ มิลเลอร์ (George Miller) ซึ่งบอกเล่าการเดินทางของ "แม็กซ์" (รับบทโดยทอม ฮาร์ดี้) ผู้รอดชีวิตในโลกอนาคตที่ถูกนิวเคลียร์เล่นงานเสียจนผืนดินไม่สามารถปลูกอะไรได้ ในโลกใบนี้ น้ำและเชื้อเพลิงเป็นสิ่งหายาก แม็กซ์ถูกจับไปยังซิทาเดล อาณาจักรแห่งเดียวที่มีครบทั้งน้ำและทรัพยากรดำรงชีวิต ทว่าดินแดนนี้มี "อิมมอร์ตัน โจ" ผู้โหดเหี้ยมเป็นผู้ควบคุม เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้แม็กซ์ได้พบกับ "ฟิวริโอซ่า" (นำแสดงโดย ชาร์ลิซ เธอรอน) มือขวาของอิมมอร์ตัน โจ ที่ในใจนั้นพยายามแสวงหาหนทางหนีเพื่อกลับบ้านเกิดให้ได้ เมื่อโอกาสประจวบเหมาะ ทั้งสองได้หลบหนีออกจากซิทาเดล เป็นเหตุให้เกิดการไล่ล่าสุดบ้าระห่ำ -- The Martian The Martian (เดอะ มาเชี่ยน) ถ่ายทอดเรื่องราวการเอาชีวิตรอดของ มาร์ค วัทนีย์ (รับบทโดย แมทท์ เดมอน) นักพฤษกศาสตร์และ วิศวกรเครื่องกลที่ถูกองค์กรนาซ่าส่งไปปฏิบัติภารกิจสำรวจดาวอังคาร ซึ่งระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้เกิดพายุอย่างรุนแรงจนทำให้ผู้ร่วมภารกิจคนอื่นๆต้องเดินทางออกจากดาวอังคารและจำเป็นต้องทิ้งมาร์คไว้ที่นั่นโดยที่ทุกคนต่างนึกว่าเขาได้เสียชีวิตไปแล้ว มาร์คได้รับบาดเจ็บ เครื่องมือสื่อสารทุกชนิดได้รับความเสียหายทั้งหมด เขาต้องหาทางติดต่อกลับมายังโลกและต้องหาวิธีเอาตัวรอดบนดาวอังคารให้ได้ และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด ภาพยนต์เรื่องนี้ไม่ต้องอาศัยความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในการดูมากนักเพราะมีการสื่อเนื้อหาออกมาให้เข้าใจง่าย เป็นภาพยนต์ที่ให้ทั้งสาระและความผ่อนคลายได้อย่างดีเยี่ยม -- The Revenant The Revenant (เดอะ เรเวแนนต์ ต้องรอด) ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของการดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดครั้งใหญ่ของตัวละครที่ชื่อว่า ฮิวจ์ กลาส (Hugh Glass) รับบทโดย ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ (Leonardo DiCaprio) นักสำรวจในตำนานผู้ถูกหมีกริซลีขย้ำจนตกอยู่ในสภาพปางตาย ซ้ำร้ายยังถูกเพื่อนร่วมทีมทิ้งไว้ในสภาพอากาศอันหนาวเหน็บ พร้อมด้วยอันตรายรอบด้านทั้งจากสัตว์ป่าและชนเผ่าพื้นเมือง แต่ทว่า ฮิวจ์ กลาสกลับไม่ยอมจำนนต่อความทุกข์ยากที่เขาเผชิญ และกลับลุกขึ้นมาต่อสู้กับโชคชะตาเพื่อล้างแค้นผู้ทรยศ เรื่องราวอันเข้มข้นนี้กำกับโดยผู้กำกับมากฝีมืออย่าง อเลฮานโดร กอนซาเลซ อิญาริตู (Alejandro González Iñárritu) ผู้กำกับผู้คว้ารางวัลออสการ์ปี 2558 จากภาพยนตร์เรื่อง Birdman (เบิร์ดแมน) พร้อมด้วยช่างภาพผู้เคยคว้ารางวัลออสการ์สาขาถ่ายภาพยอดเยี่ยมมาแล้วอย่าง เอมมานูเอล ลูเบสกี (Emmanuel Lubezki) มารับหน้าที่เป็นผู้ถ่ายทอดบรรยากาศนรกบนดินในเรื่องนี้ให้ออกมาสวยงาม สร้างสรรค์ สมจริง และครบเครื่องทุกองค์ประกอบได้อย่างเหลือเชื่อ ภาพยนตร์เรื่องเดอะเรเวแนนต์ ต้องรอด จึงเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่น่าจับตาดูสำหรับงานออสการ์ในปีนี้ไปโดยปริยาย -- Room Room (ขังใจไม่ยอมไกลกัน) ภาพยนตร์แนวดราม่าที่บอกเล่าเรื่องราวของแจ็ค (จาค็อบ เทรมเบลย์) เด็กชายวัย 5 ขวบที่อาศัยอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆนับตั้งแต่ลืมตาดูโลก กับแม่ (บรี ลาร์สัน) ผู้ที่รักและเอาใจใส่ชีวิตความเป็นอยู่ของเขา สำหรับแจ็ค ห้องเล็กๆแห่งนี้คือโลกทั้งใบ ที่มีแม่ และตาแก่นิค (ฌอน บริดเจอร์ส) เป็นประชากรร่วมโลก มีแสงจากสกายไลท์เป็นเสมือนดวงอาทิตย์ที่ส่องลงมาให้โลกทั้งใบของเขาได้อบอุ่น แต่ความจริงแล้ว ชีวิตของแม่ลูกอยู่ห่างไกลจากความปกติยิ่งนัก เพราะพวกเขาถูกนิคขังให้อยู่ในห้องสี่เหลี่ยม แม้ผู้เป็นแม่พยายามสร้างโลกทั้งใบให้กับแจ็คภายในห้องนั้น แต่เมื่อแจ็คอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ของพวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ ความอดทนของแม่ก็มาถึงขีดสุด พวกเขาจึงวางแผนหลบหนีจนสำเร็จ แต่เมื่อออกมาเผชิญกับโลกภายนอก ทั้งสองแม่ลูกก็พบว่า สิ่งที่น่ากลัวที่สุดกลับกลายเป็นโลกที่แท้จริง -- Spotlight Spotlight (คนข่าวคลั่ง) เป็นภาพยนตร์ที่สร้างมาจากเหตุการณ์จริงของทีมนักข่าว Spotlight หนังสือพิมพ์บอสตันโกลบ ซึ่งสืบหาความจริงเพื่อเปิดโปงการล่วงละเมิดเมิดทางเพศเด็กชายภายในศาสนจักรคาทอลิกท้องถิ่น นำไปสู่ความจริงที่โลกต้องตกตะลึงสั่นสะเทือนไปทั้งศาสนจักร พลังศรัทธา อำนาจ และจรรยาบรรณ Spotlight เป็นผลงานการกำกับของทอม แม็คคาร์ธี นำแสดงโดยมาร์ก รัฟฟาโล ไมเคิล คีตัน และราเชล แม็กอดัมส์ และได้รับเลือกให้เป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำปี 2558 โดยสมาคมนักวิจารณ์ภาพยนตร์แห่งสหรัฐ *สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม -- เคต บลานเชตต์ (Cate Blanchett) : ในภาพยนต์เรื่อง "คารอล (Carol)" ภาพยนต์แนวย้อนยุคที่ถ่ายทอดเรื่องราวความรักแบบหญิง-หญิง "คารอล" ตัวเอกของเรื่องรับบทโดย เคต บลานเชตต์ นักแสดงสาวชาวออสเตรเลียที่เคยคว้ารางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบยอดเยี่ยมจากบท แคทเธอรีน เฮปเบิร์น ในภาพยนต์เรื่อง The Aviator สำหรับเรื่องคารอล นี้ เคต แสดงเป็นหญิงแต่งงานแล้วที่มีปัญหากับสามีและกำลังจะหย่าร้างกัน เธอต้องเผชิญกับการต่อสู่เพื่อแย่งสิทธิ์ในการเลี้ยงลูกหลังการหย่า รวมถึงอุปสรรคทางความรักแบบหญิง-หญิงที่ขัดต่อหลักศีลธรรม ต้องห้าม และถูกปิดกั้นอย่างที่สุดในสมัยนั้น โดยในเรื่องนี้ เคต ถ่ายทอดความเป็น คารอล ออกมาได้อย่างละเอียด ทั้งความลึกลับน่าค้นหา และเสน่ห์เย้ายวนที่แสดงออกมาผ่านท่วงท่า รอยยิ้มมุมปาก และสายตาที่เชื้อเชิญแต่ก็หยิ่งในคราวเดียวกัน บอกได้เลยว่าตัวละคร คารอล ถือเป็นอีกหนึ่งบทบาทที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ เคต และเราก็แอบเอาใจช่วยให้เธอคว้ารางวัลออสการ์ไปครองอีกปี -- บรี ลาร์สัน (Brie Larson) กับบทบาทของผู้หญิงที่ชื่อจอย (Joy) หญิงสาวผู้ถูกลักพาตัวมากักขังไว้ในเพิงหลังบ้านมาเป็นเวลากว่า 7 ปี เธอใช้เวลาตลอดระยะเวลา 5 ปี ในการสร้างโลกทั้งใบให้แก่เด็กน้อย แจ็ค(Jack) ผู้ไม่เคยมีโอกาสมองเห็นโลกภายนอก บทบาทของคุณแม่ผู้เปี่ยมไปด้วยความหวังและความรักอันยิ่งใหญ่นี้ ส่งผลให้ บรี ลาร์สัน กวาดรางวัลลูกโลกทองคำ รางวัล Screen Actor Guild Award รางวัล BAFTA รางวัล Broadcast Film Critics Association Award และรางวัล National Board of Review ในสาขานักแสดงหญิงยอดเยี่ยมมาแล้ว อีกทั้งยังกวาดรางวัลจากสถาบันนักวิจารณ์อื่นๆ มากกว่านักแสดงหญิงคนอื่นที่ได้เข้าชิงด้วยกัน จึงไม่แปลกใจหากจะมองว่า บรีเป็นตัวเก็งรางวัลออสการ์ปีนี้ -- เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ (Jennifer Lawrence) จากภาพยนตร์เรื่อง "จอย เธอสู้เพื่อฝัน" (Joy) นับเป็นอีกปีที่นักแสดงสาวมากความฝีมืออย่างเจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงหญิงยอดเยี่ยมในบทบาทของจอย แมงกาโน่ (Joy Mangano) หญิงสาวผู้คิดค้นไม้ถูพื้นรูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ได้รับแรงผลักดันมาจากปัญหาครอบครัว ความจำเป็นด้านการเงิน และความใฝ่ฝันสูงสุดในชีวิตของเธอ ซึ่งเจนนิเฟอร์จะนำเราไปสู่เบื้องหลังอันเข้มข้นของความสำเร็จที่ได้รับจากสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ ที่แน่นอนว่า หนทางแห่งความสำเร็จครั้งนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ บทบาทนักประดิษฐ์ นักธุรกิจสาว นักต่อสู้ของเจนนิเฟอร์ครั้งนี้ จะไม่ทำให้ผู้ชมรู้สึกผิดหวังอย่างแน่นอน -- ชาร์ล็อต แรมปลิง (Charlotte Rampling) รับบทเคทในภาพยนตร์เรื่อง 45 Years ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของจีออฟ (ทอม คอร์ทเนย์) และเคท (ชาร์ล็อต แรมปลิง) ที่กำลังเตรียมจัดงานเฉลิมฉลองครบรอบการแต่งงาน 45 ปี แต่จู่ๆทั้งคู่ก็ได้รับแจ้งว่า ได้พบศพของแคทยา ซึ่งเป็นอดีตคู่หมั้นของจีออฟ 50 ปีหลังจากที่เธอหายตัวใปในขณะที่เดินทางไปท่องเที่ยวในสวิตเซอร์แลนด์ การค้นพบศพของแคทยากระตุ้นให้เคทค้นหาความจริงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในอดีตของสามี ซึ่งนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่คาดไม่ถึงและยากที่จะลืม -- เซียร์ชา โรแนน (Saoirse Ronan) นักแสดงชาวไอริช-อเมริกันที่แจ้งเกิดจากภาพยนตร์เรื่อง Atonement ในปี 2550 โดยในครั้งนั้นเธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 65 และรางวัลออสการ์ครั้งที่ 80 สาขาดาราสมทบหญิงยอดเยี่ยม สำหรับในปีนี้ เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 88 สาขาดารานำหญิงยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์ที่งดงามอลังการเรื่อง Brooklyn โดยในเรื่องนี้ เซียร์ชารับบทเป็น Eilis Lacey สาวชาวไอริชที่ต้องจากแม่และพี่สาวเพื่อไปทำงานที่บรู๊คลิน ที่นั่นเธอได้พบรักกับ Tony Fiorello หนุ่มอิตาลีที่ช่วยให้เธอไม่ต้องเหงายามไกลบ้าน แต่ในเวลาต่อมาเธอได้พบกับ Jim Farrell หนุ่มผู้เพียบพร้อมที่ทำให้หัวใจของเธอหวั่นไหว และเธอได้มาถึงจุดที่ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต
*สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
-- ไบรอัน แครนสตัน (Bryan Cranston) รับบท ดาลตัน ทรัมโบ ในภาพยนตร์เรื่อง Trumbo ที่บอกเล่าเรื่องราวย้อนไปในปี 1974 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดาลตัน ทรัมโบ (ไบรอัน แครนสตัน) เป็นนักเขียนบทภาพยนต์หัวแถวของฮอลลีวู้ด จนกระทั่งเขาและศิลปินคนอื่นๆถูกจองจำและถูกขึ้นบัญชีดำเกี่ยวกับความเชื่อทางการเมือง
-- แม็ตต์ เดม่อน (Matt Demon) จากภาพยนตร์เรื่อง "กู้ตาย 140 ล้านไมล์" (The Martian) แม็ตต์ เดม่อน ได้รับการเสนอชื่อบนเวทีออสการ์มาแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งเคยคว้ารางวัลออสการ์มาแล้วเมื่อปี 2540 ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง "ตามหาศรัทธารัก" (Good Will Hunting) สำหรับบทบาทการแสดงในภาพยนตร์เรื่อง The Martian ที่ทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลในปีนี้ แม็ตต์ เดม่อน รับบทเป็นมาร์ค วัทนีย์ นักบินอวกาศที่ถูกทอดทิ้งไว้คนเดียวบนดาวอังคาร เนื่องจากนักบินคนอื่นๆได้ตัดสินใจขับยานอวกาศกลับโลก เพราะเข้าใจว่ามาร์คเสียชีวิตไปแล้วกลางพายุขนาดมหึมา โดยมาร์ค จำเป็นต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้อยู่รอดได้จนกว่าทีมนักบินอวกาศจะนำเขากลับบ้านได้
-- ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ (Leonardo Dicaprio) ในเรื่องเดอะ เรเวแนนต์ ต้องรอด (The Revenant) ดิคาปริโอรับบทเป็นรับบทฮิวจ์ กลาส หนึ่งในคณะล่าสัตว์ในสมัยที่ชาวตะวันตกเริ่มเข้ายึดครองพื้นที่ในอเมริกา แต่ระหว่างทางกลาสถูกหมีกลิสซี่แม่ลูกอ่อนทำร้ายบาดเจ็บสาหัส ในเวลาต่อมา จอห์น ฟิตซ์เจอรัลด์ เพื่อนร่วมคณะตั้งใจทิ้งเขาให้ตายกลางทาง แต่กลาสเอารอดชีวิตมาได้ในที่สุดและหาหนทางกลับไปเพื่อทวงแค้น ด้วยบทภาพยนตร์ที่อัดแน่นบีบคั้นทุกอารมณ์ จึงส่งผลให้ดิคาปริโอสามารถคว้ารางวัลลูกโลกทองคำประจำปีนี้ในสาขาดารานำชายยอดเยี่ยมภาพยนตร์ดรามา คว้ารางวัล BAFTA Awards ประจำปีนี้ในสาขาดารานำชายยอดเยี่ยม และเป็นหนึ่งในตัวเก็งออสการ์ปีนี้ด้วย
สำหรับผลงานที่ผ่านมา ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอโด่งดั่งจากบทแจ็คในภาพยนตร์ Titanic (1997) และแสดงในภาพยนตร์ดังอีกหลายเรื่อง อาทิ Romeo and Juliet (1996), Catch Me If You Can (2002) , The Aviator (2004), Inception (2010), The Great Gatsby (2013) และ The Wolf of Wall Street (2013)
-- ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ (Michael Fassbender) จากภาพยนตร์เรื่อง"สตีฟ จ็อบส์" (Steve Jobs) กับบทบาทบุคคลอัจฉริยะ โดยจะนำเราไปดูเบื้องหลังเวทีของการเปิดตัว ผลิตภัณฑ์ 3 ชนิด ประกอบด้วย Macintosh(1984) NeXT Cube(1998) และ iMac(1998) สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ ได้ถ่ายทอดความเป็นอัจฉริยะบุคคลของสตีฟ จ็อบส์ผ่านนิสัย ท่าทาง และการพูดจาได้อย่างสมจริง โดยบทพูดในภาพนตร์จะมีลักษณะที่ค่อนข้างยาว เยอะและต้องพูดอย่างรวดเร็ว เนื่องจากจะต้องปะทะคารมเดือดกับบุคคลใกล้ตัวของเขาภายใต้สถานการณ์กดดันมากมายแทบตลอดทั้งเรื่อง เพื่อที่จะสะท้อนความเป็นตัวตนหลากหลายมุมของสตีฟ จ๊อบส์ ให้ได้มากที่สุดไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงานก็ตาม