นักวิทยาศาสตร์การเมืองของเยอรมนีเปิดเผยว่า เงินทุนของกองกำลังของรัฐอิสลาม (IS) กำลังร่อยหรอลง และอาจทำให้กลุ่มก่อการร้ายกลุ่มนี้ต้องล่มสลายไปภายในอีก 3 ปี
ศาสตราจารย์ฮาราลด์ มูลเลอร์ แห่งมหาวิทยาลัยเกอเธ่ในแฟรงค์เฟิร์ตให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวของออสเตรีย ในระหว่างการเดินทางไปเยือนกรุงเวียนนาว่า รายได้จากน้ำมันที่ลดลงจะนำไปสู่การล่มสลายของกลุ่ม IS
ในบรรดารายได้จากแหล่งอื่นๆ เช่น ภาษี การขู่กรรโชก การลักพาตัว การค้ามนุษย์และยาเสพติด และการปล้นสะดมภ์ น้ำมันยังคงเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของกลุ่ม IS นอกจากนี้ การที่แหล่งน้ำมัน โรงกลั่น และเส้นทางขนส่งของ IS ถูกโจมตี รวมทั้งการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันนั้น ส่งผลให้รายได้ของ IS ลดลงอย่างมากในระยะนี้ ศาสตราจารย์มูลเลอร์กล่าว
ศาสตราจารย์มูลเลอร์กล่าวว่า วิกฤตการณ์เช่นนี้ส่งผลให้ IS ไม่มีเงินมากพอที่จะจ่ายค่าจ้างให้กับนักรบ หรือให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ครอบครัวของนักรบ นอกจากนี้ ภูมิภาคดังกล่าวยังเผชิญกับการขาดแคลนทั้งน้ำและไฟฟ้า
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นักรบ IS จำนวนมากละทิ้งกลุ่ม เนื่องจากไม่สามารถอาศัยอยู่ในพื้นที่ปกครองของ IS ได้
เมื่อเทียบกับกลุ่มนักรบจีฮัดที่อยู่ในยุโรปซึ่งส่วนใหญ่จะต่อสู้เพื่อเหตุผลด้านอุดมการณ์แล้ว ศาสตราจารย์มูลเลอร์กล่าวว่า กลุ่มนักรบที่ต่อสู้เพื่อ IS ส่วนใหญ่มาจากประเทศที่ยากจน และบางรายมองว่า ค่าจ้างมีความสำคัญมาก
ทั้งนี้ แม้ยังไม่แน่ชัดว่าตัวเลขของนักรบที่จะละทิ้งกลุ่ม IS จะมีจำนวนมากเพียงใด แต่นายมูลเลอร์เชื่อว่าหากเกิดขึ้นก็จะทำให้กลุ่ม IS ล่มสลายเร็วขึ้น
ศาสตราจารย์มูลเลอร์กล่าวว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำมันของกลุ่ม IS โดยสหรัฐจะต้องดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังจะต้องเพิ่มความพยายาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากทั้งตุรกีและหน่วยข่าวกรอง ที่ต้องทำงานร่วมกับตำรวจ ทหาร และภาคการเงิน เพื่อเปิดโปงการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนของกลุ่ม เช่น การซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์
ทั้งนี้ ศาสตราจารย์มูลเลอร์กล่าวว่า ตุรกีจะต้องเฝ้าระวังในการควบคุมการลักลอบขนน้ำมันจากซีเรียและอิรักเข้ามายังเขตแดนของประเทศ ซึ่งแม้ว่าได้มีการดำเนินการไปบ้างแล้วก็ตาม แต่ก็ยังต้องมีการดำเนินการเพิ่มเติมอีก สำนักข่าวซินหัวรายงาน