สำนักงานสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐ (NOAA) เปิดเผยว่า เดือนมีนาคมที่ผ่านมานับเป็นเดือนที่ 11 แล้วที่อุณหภูมิทั่วโลกโลกเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งทำสถิติยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ที่ NOAA เริ่มทำการบันทึกในปี 2423
"เดือนมีนาคมนับเป็นอีกเดือนหนึ่งที่อากาศร้อนจัดที่สุดทั่วโลก" สำนักงานสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐแถลง "โดยในปัจจุบัน อุณหภูมิทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากภาวะโลกร้อนอย่างต่อเนื่องและได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่างเอลนินโญ"
ในเดือนมีนาคมนี้ อุณหภูมิผิวดินและผิวน้ำทะเลเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 2.20 องศาฟาเรนไฮต์ (1.22 องศาเซลเซียส) จากศตวรรษที่ 20 ซึ่งมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 54.9 องศาฟาเรนไฮต์ (12.7 องศาเซลเซียส)
เดือนมีนาคมที่ผ่านมานับเป็นเดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดนับตั้งแต่มีการบันทึกสถิติมาตั้งแต่ปี 2423-2558 ซึ่งทุบสถิติเดือนก่อนหน้า โดยอุณหภูมิสูงขึ้น 0.02 องศาฟาเรนไฮต์ (0.01 องศาเซลเซียส)
นอกจากนี้ อุณหภูมิผิวดินส่วนใหญ่สูงขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยในเดือนมีนาคม โดยพื้นที่ซึ่งมีสถิติอุณหภูมิสูงอย่างเห็นได้ชัดนั้น อยู่ทางตะวันออกของบราซิล, ทางตะวันออกและตอนกลางของแอฟริกา, ทางใต้ของเอเชีย และในพื้นที่ทางตอนเหนือและตอนใต้ของออสเตรเลีย
พื้นที่ส่วนมากในทิศตะวันตกเฉียงเหนือของแคนาดาและอลาสก้า รวมถึงอีกหลายภูมิภาคซึ่งอยู่ทางทิศเหนือและตะวันออกของเอเชีย มีอุณหภูมิสูงขึ้นจากค่าเฉลี่ยช่วงปี 2524-2553 อย่างน้อย 5 องศาฟาเรนไฮต์ (3 องศาเซลเซียส)
ส่วนในไตรมาสแรกปี 2559 อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 2.07 องศาฟาเรนไฮต์ (1.50 องศาเซลเซียส) มากกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยในศตวรรษที่ 20