สำนักงานความปลอดภัยด้านการขนส่งของออสเตรเลีย (ATSB) เปิดเผยรายงานการตรวจสอบทางเทคนิคที่ระบุว่า ซากชิ้นส่วนที่พบในประเทศโมแซมบิค เป็นชิ้นส่วนของเครื่องบินสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน เที่ยวบิน MH370
นายดาร์เรน เชสเตอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมออสเตรเลียกล่าวว่า คำหลักและตัวเลขที่สลันบนชิ้นส่วนที่พบนั้นสอดคล้องกับตัวอักษรที่สายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ใช้ และไม่เหมือนกับตัวอักษรที่โรงงานผลิตเครื่องบินโบอิ้งใช้เพื่อจัดส่งเครื่องบิน
รมว.ระบุว่า ความเชื่อมโยงนี้บ่งชี้ว่า ชิ้นส่วนทั้ง 2 ชิ้น ที่ชิ้นหนึ่งมาจากแพนหางแนวนอนและอีกชิ้นหนึ่งมาจากส่วนปีก เป็นชิ้นส่วนของเครื่องบินโบอิ้ง 777 เที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์
นายเชสเตอร์กล่าวว่า "ผมยืนยันรายงานการตรวจสอบทางเทคนิคของสำนักงานความปลอดภัยด้านการขนส่งของออสเตรเลียว่า ซากที่พบเป็นชิ้นส่วนของเครื่องบิน MH370"
"รอยสลักตัวหนังสือบนชิ้นส่วนทั้ง 2 ชิ้นทำให้ผู้ตรวจสอบพบหลักฐานของความเชื่อมโยง รูปแบบและสีของตัวเลขที่สลักอยู่บนชิ้นส่วนชิ้นแรกสอดคล้องกับตัวอักษรที่พัฒนาและใช้โดยสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ ขณะที่ ชิ้นส่วนชิ้นที่ 2 ปรากฏคำว่า "No step" ซึ่งรูปแบบของตัวหนังสือก็สอดคล้องกับตัวหนังสือที่สายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ใช้ ส่วนตัวยึดที่อยู่ติดกับชิ้นส่วนดังกล่าวบ่งชี้ถึงหลักฐานที่เชื่อมโยงกับสายการผลิตของสายการบิน ผมขอขอบคุณคณะทำงานจาก ATSB, Geoscience Australia, Boeing และมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย สำหรับงานนี้" รมว.กล่าว
นอกจากนี้ รมว.คมนาคมระบุว่าจะเดินหน้าค้นหาเครื่องบินที่สูญหาย และเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมสำหรับการค้นหาครั้งสุดท้ายในพื้นที่ค้นหา 20,000 ตารางกิโลเมตร แล้ว
ทั้งนี้ เที่ยวบิน MH370 ได้หายไปจากจอเรดาร์เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2557 ระหว่างบินจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปยังกรุงปักกิ่ง พร้อมกับลูกเรือและผู้โดยสารจำนวน 239 ราย