ผู้นำชาติต่างๆทั่วโลกจำนวน 171 ประเทศได้เดินทางมายังสำนักงานใหญ่ขององค์การสหประชาชาติ (UN) ในวันนี้ เพื่อเข้าร่วมพิธีลงนาม"ความตกลงปารีส"
เมื่อวานนี้ นครนิวยอร์กได้ยกระดับการรักษาความปลอดภัยบริเวณสำนักงานใหญ่ของ UN ขณะที่ผู้นำชาติต่างๆทั่วโลกเดินทางมาเพื่อเข้าร่วมการประชุม UN
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการปิดถนนหลายสาย พร้อมกับตั้งเครื่องกีดขวางก่อนถึงสำนักงานใหญ่ของ UN
นายฟาร์ฮัน ฮาค รองโฆษก UN กล่าวก่อนหน้านี้ว่า การลงนามในความตกลงปารีสในวันที่ 22 เมษายนนี้ จะเป็นการลงนามเกี่ยวกับการลดภาวะโลกร้อนที่มีประเทศเข้าร่วมลงนามมากเป็นประวัติการณ์
"เราคาดว่าจำนวนประเทศที่เข้าร่วมพิธีลงนามในความตกลงฉบับนี้จะมากกว่าจำนวนประเทศที่เข้าร่วมพิธีลงนามในความตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยกฎหมายทะเลจำนวน 119 ประเทศที่จัดขึ้นในอ่าวมอนเทโก ประเทศจาไมกาเมื่อปี 2537" นายฟาร์ฮานกล่าว
ความตกลงปารีสจะมีผลบังคับใช้ภายหลังจาก 30 วันที่ประเทศจำนวนอย่างน้อย 55 ประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากกว่า 55% ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศโลกได้มอบสัตยาบันสารไว้กับเลขาธิการ UN
ความตกลงปารีสได้ผ่านการรับรองจาก 196 ประเทศสมาชิกในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCC) โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกโดยเฉลี่ยให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นระดับก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม และพยายามจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกโดยเฉลี่ยให้ต่ำกว่า 1.5 องศาเซลเซียส
นอกจากนี้ ประเทศที่พัฒนาแล้วยังได้ตกลงที่จะระดมเงินทุนให้ได้ 1 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2563 เพื่อช่วยเหลือประเทศที่กำลังพัฒนาในการเปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจตามหลักการของ UNFCC ที่ส่งเสริมความรับผิดชอบร่วมกันในระดับที่แตกต่างกันตามความสามารถ