ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.8 แมกนิจูด ที่เอกวาดอร์ เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 646 ราย ผู้บาดเจ็บ 12,499 ราย และสูญหาย 130 ราย
ประชาชน 26,091 รายไร้ที่อยู่อาศัยและต้องไปอาศัยอยู่ตามศูนย์พักพิงต่างๆ ขณะที่มีเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจราว 14,000 นายคอยดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ที่เกิดแผ่นดินไหว
ประธานาธิบดีราฟาเอล คอร์เรีย ของเอกวาดอร์ แถลงทางโทรทัศน์ถึงสถานการณ์ความเคลื่อนไหวล่าสุด หลังเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงดังกล่าวผ่านมาครบ 1 สัปดาห์ โดยผู้นำเอกวาดอร์ได้ขอให้ประชาชนมีความหวังว่าจะสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาอันน่าเศร้าและยากลำบากนี้ไปได้ โดยรัฐบาลจะทำทุกสิ่งที่เป็นไปได้ และแม้แต่เป็นไปไม่ได้ เพื่อช่วยให้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บผ่านพ้นความยากลำบากในช่วงเวลานี้
ทั้งนี้ มีรายงานการสั่นสะเทือนและอาฟเตอร์ช็อกมากกว่า 700 ครั้งนับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหว ซึ่งทำให้เกิดความตื่นตระหนก แต่ไม่มีความเสียหายรุนแรงเพิ่มเติม โดยคาดว่าจะเกิดอาฟเตอร์ช็อกต่อไปอีกหลายสัปดาห์
ผู้รอดชีวิตได้รับอาหาร น้ำ และยาจากรัฐบาล รวมทั้งได้รับความช่วยเหลือจากองค์กรนานาชาติ แต่นายคอร์เรียยอมรับว่า ถนนหนทางที่ได้รับความเสียหายทำให้การจัดส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่นั้นล่าช้า
เพื่อเป็นการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน รัฐบาลได้เพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 2% เป็น 14% เป็นเวลาหนึ่งปี นอกจากนี้ยังได้มีการประกาศว่าอาจจะขายสินทรัพย์บางอย่างของชาติ เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง