องค์การสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยว่า เวียดนามได้ขอความช่วยเหลือจากนานาประเทศเป็นจำนวนเงิน 48.5 ล้านดอลลาร์สำหรับแผนฉุกเฉินในการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อประชากรจำนวน 2 ล้านคนทางตอนกลางและตอนใต้ของประเทศ
ทั้งนี้ ในการประเมินร่วมกันระหว่างรัฐบาลเวียดนาม, UN และกลุ่มองค์กรเอกชน (NGO) ในเดือนมี.ค.พบว่า ใน 18 จังหวัดของเวียดนามที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากภัยแล้ง ประชากรจำนวน 2 ล้านคนกำลังประสบภาวะขาดแคลนน้ำ และ 1.1 ล้านคนกำลังขาดแคลนอาหาร
ในสามเหลี่ยมแม่น้ำโขงทางตอนใต้ของประเทศ ภาวะแห้งแล้ง และระดับน้ำใต้ดินที่ลดลงได้ทำให้เกิดภาวะน้ำเค็มรุกล้ำเข้ามาในแหล่งน้ำจืดรุนแรงที่สุดในรอบ 90 ปี ส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรเสียหายกว่า 4 แสนเฮคเตอร์
นับตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว รัฐบาลเวียดนามได้จัดส่งอาหาร 5,223 ตันแก่ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยแล้ง และได้จัดสรรเงิน 1.008 ล้านล้านดอง (45 ล้านดอลลาร์) สำหรับการบรรเทาภัยแล้ง โดยมีการแจกจ่ายน้ำ 2 ล้านลูกบาศก์เมตรแก่ประชาชน
นางประทิพย์ เมห์ทา ผู้ประสานงาน UN ประจำเวียดนาม ระบุว่า รัฐบาลเวียดนามได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการแก้ปัญหาภัยแล้ง แต่เหตุการณ์นี้จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากนานาประเทศ
รายงานของ UN ระบุว่า ปรากฎการณ์เอล นีโญ่ในปีนี้ ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่มีความรุนแรงมากเป็นประวัติการณ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชน 60 ล้านคนในแอฟริกา เอเชีย อเมริกากลางและอเมริกาใต้ รวมทั้งในเขตแปซิฟิก
เพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ดังกล่าว ในวันนี้ UN จะเรียกร้องความช่วยเหลือระดับโลกสำหรับ 22 ประเทศ รวมทั้งเวียดนาม