ศูนย์จัดการภัยพิบัติแห่งชาติเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 64 คนในศรีลังกา จากเหตุดินถล่มและภัยพิบัติอื่นๆ อันเนื่องมาจากฝนที่ตกลงมาหนักที่สุดในรอบ 25 ปีในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ทีมกู้ภัยยังคงค้นหาผู้รอดชีวิตจากผู้ที่ยังสูญหายกว่า 100 ราย แม้เจ้าหน้าที่รัฐบาลรายหนึ่งเผยว่า แทบไม่มีโอกาสที่จะขุดเจอผู้รอดชีวิต
ทั้งนี้ เกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ในแม่น้ำเกลานี ทำให้ประชาชนประมาณ 200,000 คนต้องหนีภัยออกจากบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ขณะที่รัฐมนตรีคลังของศรีลังกาเผยว่า ประชาชน 500,000 คนทั่วประเทศต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตนเองที่ถูกน้ำท่วมจนอยู่ใต้น้ำในขณะนี้ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเขตโคลัมโบ ซึ่งเป็นเมืองหลวง
"ความเสียหายต่อบ้านเรือนและอุตสาหกรรมนั้นมหาศาล" รมว.คลังกล่าว
เจ้าหน้าที่ของกองทัพเรือรายหนึ่งเผยกับซินหัวว่า "เรากำลังพยายามอย่างดีที่สุดเพื่ออพยพประชาชน แต่หลายครอบครัวไม่ต้องการย้ายออกจากบ้าน เราไม่สามารถปล่อยให้พวกเขาอยู่ในบ้านต่อไปได้ มันอันตราย"
แม้ฝนหยุดตกในโคลัมโบแล้ววันนี้ แต่ชาวบ้านก็ยังไม่สามารถกลับเข้าบ้านได้ เพราะน้ำยังคงท่วมหนัก โดยพวกเขาหวังว่าฝนจะไม่กลับมาตกอีกในวันต่อๆไป
ขณะเดียวกันประเทศต่างๆได้เริ่มเสนอความช่วยเหลือแก่ศรีลังกา อาทิ ญี่ปุ่น จีน ปากีสถาน และออสเตรเลีย ขณะที่แพทริเซีย สกอตแลนด์ เลขาธิการใหญ่เครือจักรภพได้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกเครือจักรภพให้การสนับสนุนแก่ศรีลังกาด้วยการประสานความร่วมมือกัน
ด้านสหรัฐอเมริกามอบเงิน 50,000 ดอลลาร์สำหรับให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เพื่อตอบสนองความจำเป็นเร่งด่วนต่างๆของผู้ประสบภัย
ในขณะที่กองทัพเรืออินเดียส่งเรือและนักประดาน้ำไปให้ความช่วยเหลือแก่ศรีลังกา รวมไปถึงเครื่องบินทหารที่ขนส่งเครื่องมือแพทย์ เต๊นท์ และไฟฉุกเฉิน
นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี กล่าวว่า อินเดียพร้อมยืนหยัดช่วยเหลือรัฐบาลและประชาชนของศรีลังกาในการรับมือกับภัยพิบัติครั้งนี้