สภาสหภาพการค้าฮ่องกงและเกาลูนทำการประท้วงหน้าสถานกงสุลของญี่ปุ่นที่ฮ่องกงในวันนี้ เพื่อคัดค้านการที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐเดินทางเยือนเมืองฮิโรชิมาของญี่ปุ่น
ทั้งนี้ สมาชิกสภาสหภาพการค้าฮ่องกงและเกาลูนได้ถือป้ายข้อความภาษาจีนและอังกฤษ เช่น "คุณโอบามา อย่าไปเยือนฮิโรชิมา" และ "ญี่ปุ่นต้องออกมาขอโทษ" โดยพวกเขาได้รวมตัวกันที่ย่านเซ็นทรัลของฮ่องกงซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานกงสุลญี่ปุ่น
นายลี กว๊อก คึง ประธานสหภาพการค้ากล่าวว่า พวกเขามาชุมนุมกันเพื่อคัดค้านการเดินทางเยือนเมืองฮิโรชิมาของปธน.โอบามา และเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นออกมาขอโทษต่อการรุกรานประเทศในเอเชียในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
นายลีกล่าวว่า การเดินทางของปธน.โอบามาถือเป็นการยกย่องการรุกรานของญี่ปุ่น และกล่าวว่า ปธน.โอบามาควรประณามการรุกรานของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลก
ปธน.โอบามาสร้างประวัติศาสตร์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐที่ยังอยู่ในตำแหน่งคนแรกที่เดินทางเยือนเมืองฮิโรชิมา นับตั้งแต่สหรัฐทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ถล่มเมืองดังกล่าวเมื่อกว่า 70 ปีก่อน
รายงานข่าวระบุว่า เมื่อเดินทางถึง ผู้นำสหรัฐได้เข้าไปยังพิพิธภัณฑ์สันติภาพฮิโรชิมา จากนั้นจึงเดินทางต่อไปที่สวนสันติภาพฮิโรชิมา ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานของเหตุระเบิดปรมาณูถล่มเมืองฮิโรชิมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พร้อมกับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น เพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดปรมาณู โดยผู้นำทั้งสองได้วางพวงมาลาที่บริเวณหน้าอนุสรณ์สถาน
ทั้งนี้ สหรัฐได้ทิ้งระเบิดถล่มฮิโรชิมาเมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2488 และทิ้งระเบิดอีกลูกที่นางาซากิในช่วง 3 วันหลังจากนั้น ซึ่งถือเป็นการป้องกันไม่ให้สงครามทวีความรุนแรงขึ้น และเป็นเหตุการณ์ที่นำไปสู่การยุติสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างเป็นทางการ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 140,000 รายในฮิโรชิมา และอีก 74,000 รายในนางาซากิ
ปธน.โอบามากล่าวว่า เหตุการณ์วันที่ 6 ส.ค. 2488 จะต้องไม่ถูกลืมเลือน อย่างไรก็ตาม ผู้นำสหรัฐไม่ได้ขอโทษสำหรับเหตุการณ์ทิ้งระเบิดที่เกิดขึ้น
ปธน.โอบามาได้กล่าวต่อผู้รอดชีวิตจากเหตุดังกล่าว พร้อมกับเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ร่วมกันทำให้โลกนี้ปลอดอาวุธนิวเคลียร์