โวดาโฟน (Vodafone) เปิดเผยผลสำรวจ Flexible: friend or foe? ซึ่งพบว่า 75% ของบริษัททั่วโลกเริ่มนำนโยบายการทำงานแบบยืดหยุ่นมาใช้ ซึ่งเปิดทางให้พนักงานสามารถปรับเปลี่ยนเวลาทำงานและใช้เทคโนโลยีล่าสุดเพื่อทำงานทางไกล นอกจากนี้ การสำรวจบุคลากรในภาคธุรกิจ 8,000 คนใน 3 ทวีปยังเผยให้เห็นด้วยว่า 53% ของบริษัทในสิงคโปร์ที่ใช้ระบบการทำงานแบบยืดหยุ่นนั้น มีผลกำไรมากขึ้น นับตั้งแต่เริ่มนำแนวทางดังกล่าวมาปฏิบัติ
การศึกษาหัวในข้อ The Flexible: friend or foe? ได้ทำการสำรวจธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง องค์กรภาคเอกชน และบริษัทข้ามชาติ (MNCs) ใน 10 ประเทศ ซึ่งพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เชื่อว่าประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น เนื่องจากระบบการทำงานที่ยืดหยุ่น โดย 61% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลกระบุว่าผลกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้น ขณะที่ 81% มีผลิตภาพมากขึ้น และ 58% เชื่อว่านโยบายการทำงานที่ยืดหยุ่นส่งผลดีต่อชื่อเสียงขององค์กร
การใช้บริการโมบายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง บรอดแบนด์พื้นฐาน และบริการคลาวด์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะนี้ มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการปฏิวัติสถานที่ทำงาน โดย 61% ของผู้ตอบแบบสอบถามใช้บริการบรอดแบนด์ที่บ้านเพื่อเข้าถึงระบบงานต่างๆ ขณะที่อีก 24% ใช้การเชื่อมต่อข้อมูลผ่านสมาร์ทโฟน แท็บแล็ต หรือคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กโดยใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อ dongle
ผลสำรวจเผยด้วยว่า บริษัทสิงคโปร์กว่า 3 ใน 4 หรือ 76% นำนโยบายการทำงานแบบยืดหยุ่นมาใช้ในองค์กร ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 75% โดยการใช้นโยบายดังกล่าวนำมาซึ่งประโยชน์ต่างๆ กล่าวคือ 53% ของบริษัทสิงคโปร์มีกำไรเพิ่มขึ้นหลังใช้นโยบายการทำงานแบบยืดหยุ่น 77% เห็นว่าผลิตภาพของพนักงานเพิ่มสูงขึ้น 54% พบว่าการทำงานเป็นทีมมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่ 54% ของพนักงานในสิงคโปร์สนับสนุนการใช้นโยบายการทำงานที่ยืดหยุ่น เพื่อความสมดุลระหว่างชีวิตกับงาน และพนักงานในองค์กร 75% ที่ใช้นโยบายนี้มีขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานเพิ่มขึ้น
โวดาโฟนยังสำรวจด้วยว่า เพราะเหตุใดผู้ตอบแบบสอบถาม 20% ทั่วโลกยังไม่มีการใช้นโยบายการทำงานที่ยืดหยุ่น ซึ่งผลสำรวจเฉพาะในสิงคโปร์พบว่า 27% ของบริษัทในสิงคโปร์ยังไม่มีการใช้นโยบายการทำงานแบบยืดหยุ่น เนื่องจากกลัวว่าความสามารถในการทำงานเป็นทีมจะลดลง ขณะที่พนักงาน 57% รู้สึกว่าตำแหน่งงานของตนไม่เข้ากับรูปแบบการทำงานยืดหยุ่น และ 38% ของพนักงานในสิงคโปร์ไม่ได้ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ค ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีบทบาทสำคัญในการทำงานแบบยืดหยุ่น
เบ็น เอล์มส์ ประธาน Vodafone Global Enterprise Asia Pacific กล่าวว่า "การศึกษาครั้งนี้ทำให้เราพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างทั่วถึงและรวดเร็วในสถานที่ทำงานยุคใหม่ นายจ้างในสิงคโปร์บอกกับเราว่าการทำงานที่ยืดหยุ่นช่วยเพิ่มผลกำไร ในขณะที่ลูกจ้างมองว่าตนเองทำผลงานได้มากขึ้น ทั้งนี้ หัวใจสำคัญของทั้งหมดทั้งมวลนี้คือเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานของทุกภาคส่วน ตั้งแต่เครือข่ายโมบายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและบรอดแบนด์พื้นฐาน ไปจนถึงบริการคลาวด์ล่าสุดที่เอื้อให้หลายฝ่ายทำงานร่วมกันได้ เรากำลังอยู่ในยุคที่การทำงานขึ้นอยู่กับสิ่งที่ทำ ไม่ใช่สถานที่ที่ทำ"
แบบสำรวจ The Flexible: friend or foe? จัดทำขึ้นระหว่างเดือนกันยายน - ตุลาคม 2558 โดย Morar (เดิมชื่อ Redshift Research) ในนามของโวดาโฟน สำหรับประเทศที่ได้รับการสำรวจประกอบด้วย เยอรมนี ฮ่องกง อินเดีย อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สิงคโปร์ แอฟริกาใต้ สเปน สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา โดยมีการสัมภาษณ์นายจ้างและลูกจ้างรวม 8,000 คนใน 10 ประเทศผ่านทางออนไลน์