ผลการสำรวจครั้งล่าสุดของแกลลัพระบุว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ไม่มีประกันสุขภาพอยู่ที่ 11% ในไตรมาส 2 ของปี 2559 ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ
จำนวนประชาชนที่ไม่มีประกันสุขภาพลดลง 6.1% นับตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปี 2556 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่จะมีการใช้กฎหมาย Affordable Care Act หรือ โอบามาแคร์
ตัวเลขดังกล่าวมาจากการสอบถามประชาชนราว 46,000 คน ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ถึงวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ในกลุ่มผู้มีรายได้นั้น อัตราส่วนของผู้ที่ไม่มีประกันสุขภาพในครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำกว่า 36,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ปี ลดลงมากที่สุด
แกลลัพเปิดเผยว่า ประชาชนในกลุ่มดังกล่าวไม่มีประกันสุขภาพ 30.7% ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2556 เมื่อเทียบกับสัดส่วนไตรมาส 2 ของปี 2559 ที่ 20.4%
จำนวนประชาชนเชื้อสายฮิสแพนิกและแอฟริกัน-อเมริกันที่ไม่มีประกันสุขภาพนั้น ลดลงตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปี 2556
จำนวนประชาชนชาวแอฟริกัน-อเมริกันที่ไม่มีประกันสุขภาพลดลง 8.6% ตั้งแต่ปี 2556 จากระดับ 20.9% ในไตรมาส 4 ของปี 2556 สู่ 12.3% ในไตรมาส 2 ของปี 2559
ทั้งนี้ โอบามาแคร์เป็นกฎหมายที่ก่อให้เกิดข้อโต้แย้งต่างๆ โดยมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในหลายประเด็น รวมถึงมีการระบุว่ากฎหมายดังกล่าวเป็นภาระของชนชั้นกลางที่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย