กระทรวงการต่างประเทศของไทยออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องในทะเลจีนใต้รักษาไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพ
นอกจากนี้ แถลงการณ์ยังระบุว่า สถานการณ์ในทะเลจีนใต้ควรได้รับการแก้ไขบนพื้นฐานของความไว้วางใจ และความเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน รวมทั้งการมีผลประโยชน์ที่เท่าเทียมกัน ซึ่งจะสะท้อนความสัมพันธ์ที่ยาวนานระหว่างจีนและสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
ทั้งนี้ ศาลอนุญาโตตุลาการถาวร (PCA) ที่กรุงเฮก ประกาศชี้ขาดตัดสินประเด็นพิพาทในทะเลจีนใต้ในวันนี้ โดยได้ประกาศว่า ฟิลิปปินส์มีสิทธิ์ทำประมงในบริเวณหมู่เกาะปะการังสการ์โบโรห์ พร้อมชี้ขาดว่า รัฐบาลจีนไม่มีสิทธิเหนือทรัพยากรบริเวณน่านน้ำพิพาทดังกล่าว
ทางศาลได้มีการตัดสินคดีที่ฟิลิปปินส์ได้ยื่นไว้เมื่อเดือนม.ค. 2558 ซึ่งระบุว่า การที่รัฐบาลจีนได้อ้างสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้ส่วนใหญ่นั้น ได้ขัดต่ออนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล
ทางด้านจีนได้ปฏิเสธที่จะยอมรับคำตัดสินของศาลดังกล่าว พร้อมกับได้ออกแถลงการณ์ในวันนี้ โดยย้ำถึงอำนาจอธิปไตยในดินแดน สิทธิทางทะเล และผลประโยชน์ต่างๆในบริเวณทะเลจีนใต้
กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุในแถลงการณ์ว่า คำตัดสินดังกล่าวถือเป็นโมฆะและไม่มีผลบังคับ
แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า อำนาจอธิปไตยในเขตแดนและสิทธิทางทะเล รวมทั้งผลประโยชน์ในทะเลจีนใต้ของจีน จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆจากคำตัดสินดังกล่าว โดยจีนขอคัดค้านและจะไม่ยอมรับในคำอ้างหรือการกระทำใดๆ บนพื้นฐานของคำตัดสินเหล่านี้