นายเจห์ จอห์นสัน รมว.ความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐ กล่าวว่า เขาได้สั่งการให้คณะที่ปรึกษาของเขาทำการประเมินว่าทางกระทรวงสมควรต่อสัญญาการใช้เรือนจำจากภาคเอกชนหรือไม่
ปัจจุบัน กองตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของกระทรวง ได้ใช้เรือนจำจากภาคเอกชน เช่น บริษัทคอร์เรคชั่น คอร์ปอเรชั่น ออฟ อเมริกา เพื่อคุมขังผู้อพยพโดยผิดกฎหมาย
การประกาศดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐเปิดเผยในวันที่ 18 ส.ค.ว่า ทางกระทรวงมีแผนที่จะยุติการใช้เรือนจำของภาคเอกชน
นางแซลลี เยทส์ รมช.ยุติธรรมสหรัฐ ส่งหนังสือแจ้งเจ้าหน้าที่มิให้มีการต่อสัญญากับผู้ประกอบการเรือนจำของภาคเอกชน และให้มีการลดจำนวนสัญญาที่มีอยู่ในขณะนี้
"นี่เป็นขั้นตอนแรกในการลด และยุติการใช้เรือนจำของภาคเอกชนในที่สุด" เขากล่าว
ในระหว่างปีงบประมาณ 2011-2014 กรมราชทัณฑ์สหรัฐได้เพิ่มการใช้จ่ายในงบสำหรับเรือนจำในภาคเอกชนจากระดับ 562 ล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 639 ล้านดอลลาร์ แต่หลังจากนั้น อุตสาหกรรมเรือนจำภาคเอกชนก็ได้ถูกกดดันจากนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ที่ได้ออกมาเสนอแนวคิดลดการใช้เรือนจำภาคเอกชนในระบบการลงโทษของสหรัฐ