กระทรวงการคลังสหรัฐแสดงความผิดหวังต่อคำตัดสินของสหภาพยุโรป (EU) ที่ระบุว่า บริษัทแอปเปิล อิงค์ จะต้องจ่ายภาษีย้อนหลังกว่า 1 หมื่นล้านยูโรให้แก่รัฐบาลไอร์แลนด์ เนื่องจากทางบริษัทได้รับสิทธิพิเศษทางด้านภาษีที่ไม่เป็นไปตามกฎระเบียบของ EU เป็นเวลา 11 ปี
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังออกแถลงการณ์ระบุว่า การเรียกเก็บภาษีย้อนหลังดังกล่าว ถือเป็นการประทำที่ไม่ยุติธรรม และไม่สอดคล้องกับหลักการทางกฎหมาย
นอกจากนี้ กระทรวงยังตั้งข้อสงสัยต่อกฎระเบียบด้านภาษีในแต่ละประเทศสมาชิกของ EU
กระทรวงการคลังยังเตือนว่า คำตัดสินดังกล่าวอาจกระทบต่อการลงทุนของต่างชาติ, บรรยากาศทางธุรกิจในยุโรป รวมทั้งความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐ และ EU
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงการคลังสหรัฐได้กล่าวหา EU ว่าได้ใช้หลักเกณฑ์ที่แตกต่างกันในการตัดสินคดีกรณีที่เกี่ยวข้องกับบริษัทสหรัฐ
นางมาร์เกรท เวสตาเกอร์ ซึ่งเป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ฝ่ายป้องกันการผูกขาดตลาด มีคำสั่งในวันนี้ให้บริษัทแอปเปิลจ่ายเงินเป็นค่าภาษีย้อนหลัง 1.3 หมื่นล้านยูโร (1.45 หมื่นล้านดอลลาร์) บวกดอกเบี้ย ให้แก่รัฐบาลไอร์แลนด์ หลังพบว่าทางบริษัทได้รับประโยชน์ด้านภาษีจากรัฐบาลไอร์แลนด์ ภายใต้โครงการความช่วยเหลือของรัฐที่ผิดกฎระเบียบ EU เป็นเวลาถึง 11 ปี
นางเวสตาเกอร์ระบุว่า "ไอร์แลนด์ให้ผลประโยชน์ด้านภาษีที่ผิดกฎหมายแก่แอปเปิล ซึ่งทำให้แอปเปิลสามารถจ่ายภาษีในอัตราต่ำกว่าธุรกิจอื่นเป็นเวลาหลายปี"
นางเวสตาเกอร์กล่าวว่า แอปเปิลจ่ายภาษีในไอร์แลนด์จากกำไรในยุโรปของยอดขายไอโฟน รวมทั้งผลิตภัณฑ์ และบริการอื่นในอัตราลดลงจากระดับ 1% ในปี 2003 สู่ระดับเพียง 0.005% ในปี 2014 ซึ่งหมายความว่า จากกำไรทุกๆ 1 ล้านยูโร แอปเปิลจ่ายภาษีเพียง 50 ยูโร
สำหรับแอปเปิลแล้ว การหาเงิน 1.3 หมื่นล้านยูโรมาจ่ายตามคำสั่งของ EC ไม่น่าจะสร้างปัญหาแต่อย่างใด เนื่องจากบริษัทมีกำไรมากเป็นประวัติการณ์ถึง 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ซึ่งการจ่ายภาษีย้อนหลัง 1.3 หมื่นล้านยูโรจะคิดเป็นสัดส่วนเพียง 6% ของกระแสเงินทุนของทางบริษัท
ก่อนหน้านี้ ในปี 2014 ทาง EC ได้เคยกล่าวหารัฐบาลไอร์แลนด์ว่าได้เลี่ยงกฎข้อบังคับด้านภาษีระหว่างประเทศ โดยยอมให้แอปเปิลเข้าซุกกำไรจำนวนหลายหมื่นล้านดอลลาร์เพื่อแลกกับการจ้างงานจากทางแอปเปิล
ทั้งนี้ แอปเปิลมีการจ้างงานพนักงานจำนวน 5,500 คนในไอร์แลนด์