พนักงานอัยการเกาหลีใต้เรียกตัวนายชิน ดง บิน ประธานกลุ่มธุรกิจ ลอตเต้ กรุ๊ป (Lotte Group) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของเกาหลีใต้เข้าพบ เพื่อดำเนินการสอบสวนในข้อหาผู้สมรู้ร่วมคิดคดีฉ้อโกงเงินของบริษัท
นายชินวัย 61 ปี ถูกตั้งข้อหาติดสินบนและยักยอกเงิน โดยสื่อท้องถิ่นคาดว่าอาจมีจำนวนเงินสูงถึง 2 แสนล้านวอน (180 ล้านดอลลาร์)
การเรียกตัวนายชินเกิดขึ้น 3 เดือนหลังจากที่เจ้าหน้าที่อัยการเกาหลีใต้ได้บุกเข้าตรวจค้นสำนักงานหลายแห่งของบริษัท ลอตเต้ กรุ๊ป (Lotte Group) และบ้านของผู้บริหารบางคนของบริษัท เนื่องจากพบข้อสงสัยว่าบริษัทได้จัดตั้งกองทุนเพื่อนำเงินมาใช้ในการติดสินบนเจ้าหน้าที่ (slush fund) เพื่ออำนวยความสะดวกในการซื้อขายสินทรัพย์ระหว่างบริษัทในเครือ
ส่วนเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา นายชิน ดง จู พี่ชายคนโตของนายชิน ดง บิน ถูกพนักงานอัยการเรียกตัวเข้าพบ ในข้อหายักยอกเงินบริษัทเช่นกัน และยังได้มีการขยายผลการสืบสวนไปยังนายชิน คยุก โฮ ผู้ก่อตั้งลอตเต้วัย 94 ปี โดยแบ่งการสอบสวนเป็น 3 วัน เนื่องจากนายชิน คยุก โฮมีอายุมากแล้ว
ด้านนางชิน ยัง จา พี่สาวคนโตของนายชิน ดง บิน ถูกสั่งจำคุกในเดือนก.ค. ข้อหารับสินบนจากบริษัทในท้องถิ่นเพื่อแลกกับสิทธิพิเศษในธุรกิจร้านค้าและห้างสรรพสินค้าปลอดภาษีของกลุ่ม
ส่วนนายลี อิน วอน รองประธานของลอตเต้และคนสนิทของนายชิน ดง บิน ถูกพบเป็นศพในเดือนส.ค. ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเข้าพบพนักงานอัยการ โดยพนักงานสืบสวนสรุปว่าเป็นการฆ่าตัวตาย
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่อัยการได้ทำการตรวจสอบบัญชีของบริษัทในเครือของลอตเต้ ซึ่งรวมถึง โฮเทล ลอตเต้, ลอตเต้ ดีพาร์ทเมนท์ สโตร์, ลอตเต้ ชอปปิ้ง และลอตเต้ มาร์ท เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายระหว่างบริษัทในเครือ
ลอตเต้เป็นบริษัทขนาดใหญ่อันดับ 5 ของเกาหลีใต้ ซึ่งดำเนินธุรกิจทั้งในเกาหลีใต้และญี่ปุ่น โดยธุรกิจของบริษัทครอบคลุมหลายประเภท ตั้งแต่โรงแรม ธุรกิจเพื่อการสันทนาการ ไปจนถึงห้างสรรพสินค้า เอาท์เล็ตลดราคาสินค้า ธุรกิจก่อสร้าง และเคมีภัณฑ์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน