สื่อของทางการเมียนมารายงานว่า เมียนมาตั้งเป้าหมายว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวในประเทศเป็นจำนวนมากถึง 7 ล้านคนภายในปี 2563 และเรียกร้องให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการท่องเที่ยวทำงานด้วยจิตสำนึกของความรับผิดชอบ
นายอู เฮนรี วาน เทียว รองประธานาธิบดีเมียนมา กล่าวในงานวันท่องเที่ยวโลกว่า เมียนมาได้เห็นการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทุกปี โดยเมื่อปี 2558 มีนักท่องเที่ยวมาเยือนเมียนมาจำนวน 4.6 ล้านคน และคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะมากถึง 7 ล้านคนภายในปี 2563
รองประธานาธิบดีเมียนมา ยังเปิดเผยอีกว่า กระทรวงการโรงแรมและการท่องเที่ยวกำลังดำเนินการพัฒนาโครงการท่องเที่ยวเชิงชุมชน ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มในการผลักดันการท่องเที่ยวในพื้นที่ที่กำหนดทั่วประเทศ
นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังได้ออกข้อกำหนดสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยี่ยมชมขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวบ้านในท้องถิ่นและเพลิดเพลินไปกับประชาชนในกลุ่มชาติพันธุ์ เขากล่าวเสริม
สำหรับภาคการโรงแรมและการท่องเที่ยว นับเป็นหนึ่งในภาคส่วนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเมียนมาภายใต้กลยุทธ์การส่งออกแห่งชาติ
โดยจากตัวเลขของกระทรวงฯ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาระบุว่า มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนเมียนมาจำนวน 3 ล้านคน และตั้งเป้าหมายไว้ที่ 5 ล้านคนในสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในภาคการโรงแรมและการท่องเที่ยวของเมียนมา ตั้งแต่เปิดประเทศเมื่อปลายปี 2531 มีมูลค่าถึง 2.481 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำนักข่าวซินหัวรายงาน