คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เตรียมลงมติในวันพรุ่งนี้เพื่อทำการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่ หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ทำการทดลองนิวเคลียร์ครั้งล่าสุด
คาดกันว่ามาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวจะส่งผลให้มูลค่าการส่งออกของเกาหลีเหนือลดลงราว 800 ล้านดอลลาร์
สมาชิกถาวร 5 ชาติใน UNSC ได้เห็นพ้องกันต่อมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่แล้ว
เกาหลีเหนือได้ทำการทดลองนิวเคลียร์ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ก.ย. ซึ่งเป็นครั้งที่ 5 และเป็นครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยดำเนินการมา
มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่นี้จะลดการส่งออกถ่านหินของเกาหลีเหนือราว 60% หรือคิดเป็นเงินราว 700 ล้านดอลลาร์ โดยจะจำกัดการส่งออกถ่านหินของเกาหลีเหนือที่ระดับ 400.9 ล้านดอลลาร์ หรือ 7.5 ล้านตันในแต่ละปี โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า
จีนนับเป็นประเทศเดียวในโลกที่ซื้อถ่านหินจากเกาหลีเหนือ โดยในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ จีนได้นำเข้าถ่านหินจากเกาหลีเหนือ 18.6 ล้านตัน โดยเพิ่มขึ้นเกือบ 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นอกจากนี้ มาตรการคว่ำบาตรยังระบุห้ามประเทศต่างๆขายเฮลิคอปเตอร์ หรือเรือให้แก่เกาหลีเหนือ
ขณะเดียวกัน มาตรการดังกล่าวได้เรียกร้องให้ประเทศต่างๆสั่งลดจำนวนเจ้าหน้าที่ในสถานทูตของเกาหลีเหนือ และจำกัดจำนวนบัญชีธนาคารที่กำหนดไว้สำหรับเจ้าหน้าที่แต่ละราย เนื่องจากมีความกังวลว่าเกาหลีเหนืออาจใช้เจ้าหน้าที่ทูตในการทำกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย
มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ยังได้ขึ้นบัญชีดำเจ้าหน้าที่ 11 คน ซึ่งรวมถึงอดีตเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำอียิปต์ และเมียนมา รวมทั้งบริษัท 10 แห่ง ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ที่ถูกคว่ำบาตรไม่สามารถเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ขณะที่สินทรัพย์ถูกอายัด เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ