-- คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่ เพื่อลงโทษต่อการทดลองนิวเคลียร์ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ก.ย. ซึ่งเป็นครั้งที่ 5 และเป็นครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยดำเนินการมา
มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวจะจำกัดการส่งออกถ่านหินของเกาหลีเหนือที่ระดับ 400.9 ล้านดอลลาร์ หรือ 7.5 ล้านตันในแต่ละปี โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า ซึ่งจะส่งผลให้มูลค่าการส่งออกถ่านหินของเกาหลีเหนือลดลง 60% หรือคิดเป็นเงินราว 700 ล้านดอลลาร์ต่อปี
-- นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ทวีตข้อความว่า เขาเตรียมที่จะวางมือจากธุรกิจของเขา เพื่อมุ่งทำงานในตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ และเพื่อหลีกเลี่ยงการทับซ้อนทางด้านผลประโยชน์
นายทรัมป์เปิดเผยว่า เขาและครอบครัวจะจัดการแถลงข่าวที่นครนิวยอร์กในวันที่ 15 ธ.ค. เพื่อเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการวางมือทางธุรกิจของเขา
-- คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) ประกาศว่า จีนจะปรับเพิ่มราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและดีเซล โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ ตามการปรับตัวของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก
ทั้งนี้ จีนจะปรับเพิ่มราคาน้ำมันเบนซินและดีเซล 175 หยวน/ตัน และ 170 หยวน/ตัน ตามลำดับ
-- เกิดเหตุกองกำลังไม่ทราบฝ่ายได้ยิงจรวด 2 ลูกตกลงในพื้นที่ใกล้สถานเอกอัครราชทูตใจกลางกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน สร้างความแตกตื่นในหมู่ประชาชนและผู้พักอาศัย
แหล่งข่าวระบุว่า จากการสืบสวนขั้นต้นพบจรวด 2 ลูกตกลงในชุมชนชัชดารัคเมื่อเวลา 19:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
-- ศาลซาอุดิอาระเบียตัดสินประหารชีวิตผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายจำนวน 3 คนที่มาจากเมืองกอตีฟทางตะวันออกของประเทศ
ขณะเดียวกัน ผู้ต้องหารายที่ 4 ถูกตัดสินจำคุก 12 ปี หลังเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มหัวรุนแรงในเมืองกอตีฟ ที่ใช้อาวุธโจมตีตำรวจและศูนย์บัญชาการเรือนจำ สำนักข่าวซินหัวรายงาน