กองกำลังพันธมิตรซึ่งนำโดยสหรัฐ เปิดเผยว่า นักรบของกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) จำนวน 97 รายถูกสังหารจากการโจมตีทางอากาศและภาคพื้นดินอย่างหนักในเมืองโมซูล ทางตอนเหนือของอิรัก
กองพลยานเกราะได้ต่อสู้กับนักรบกลุ่ม IS และมือระเบิดคาร์บอมในเขตอัล-อินทิซาร์ อัล-ชาอีมา และ อัล-ซาเลม ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองโมซูล ส่งผลให้มีนักรบ IS เสียชีวิต 51 ราย และมือระเบิดคาร์บอมเสียชีวิตอีก 4 ราย อีกทั้งยังได้ทำลายรถยนต์ที่มีนักรบกลุ่ม IS โดยสารอยู่อีก 3 คัน
นอกจากนี้ กองพลทหารยังขับไล่นักรบ IS ที่เข้าก่อเหตุบริเวณสำนักงานตำรวจของอิรัก โดยสังหารนักรบกลุ่ม IS ไปได้ 21 ราย และมือระเบิดฆ่าตัวตายที่เตรียมก่อเหตุคาร์บอมบ์อีก 2 ราย
กองกำลังอิรักยังได้เดินหน้ากวาดล้างกลุ่มหัวรุนแรงในเขตอื่นๆ ซึ่งอยู่ทางตอนตะวันออกของเมืองโมซูล หรือฝั่งซ้ายของแม่น้ำไทกริส
ทั้งนี้ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ระบุในรายงานฉบับล่าสุดว่า ประชาชน 103,872 ราย ซึ่งรวมถึงผู้หญิงและเด็ก ได้อพยพหนีภัยออกจากเมืองโมซูลและเขตใกล้เคียง นับตั้งแต่กองกำลังอิรักเริ่มปฏิบัติการยึดเมืองคืนจากกลุ่ม IS ขณะที่ประชาชนซึ่งไร้ที่อยู่อาศัยก็มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา นายไฮเดอร์ อัล-อาบาดี นายกรัฐมนตรีอิรัก ได้ประกาศเริ่มต้นสงครามเพื่อยึดเมืองโมซูลซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศคืนจากกลุ่มรัฐอิสลาม (IS)