ในวันนี้ จังหวัดอาเจะห์ของอินโดนีเซียได้จัดพิธีรำลึก 12 ปีเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ โดยครอบครัวและญาติมิตรได้มารวมตัวกันเพื่อเคารพสุสานของผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมดังกล่าว และในโอกาสนี้ นายโซเอดาร์โม รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดอาเจะห์ ได้ย้ำเตือนว่า อินโดนีเซียจำเป็นต้องมีระบบเตือนภัยสึนามิ
หลังเกิดสึนามิเมื่อปี 2547 อินโดนีเซียได้นำทุ่นลอยเตือนภัยสึนามิมาใช้ 22 ทุ่น เพื่อตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของผิวทะเลเมื่อเกิดสึนามิ แต่ตอนนี้ ทุ่นลอยทั้งหมดใช้การไม่ได้แล้ว อินโดนีเซียจึงต้องอาศัยทุ่นลอยของออสเตรเลียในมหาสมุทรอินเดีย ทุ่นลอยของไทยในทะเลอันดามัน และทุ่นลอยของสหรัฐในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยอินโดนีเซียมีสถานีอ่านข้อมูลจากทุ่นเหล่านี้ตลอด 24 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม นายมูฮัมหมัด อิลยาส หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีสำรวจทะลของสำนักงานประเมินและประยุกต์ใช้เทคโนโลยี กล่าวว่า ทุ่นลอยเตือนภัยสึนามิของต่างประเทศอาจไม่มีประโยชน์ หากแผ่นดินไหวเกิดขึ้นนอกบริเวณที่มีทุ่นลอยติดตั้งอยู่
ทางสำนักงานฯ คาดการณ์ว่า ในอนาคตจะเกิดแผ่นดินไหวขนาด 9.0 ในช่องแคบซุนดาระหว่างเกาะชวากับเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย ดังนั้น เขาหวังว่าจะมีการติดตั้งทุ่นลอยเตือนภัยสึนามิอย่างน้อย 1 ทุ่นในบริเวณนี้ แต่ติดปัญหาในเรื่องของงบประมาณ เพราะการติดตั้งและบำรุงรักษาทุ่นดังกล่าวต้องใช้งบประมาณมหาศาล
ทั้งนี้ จังหวัดอาเจะห์เคยได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวรุนแรง 9.1 แมกนิจูดและคลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อเดือนธ.ค.ปี 2547 โดยในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตถึง 180,000 คน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน