กระทรวงแรงงานของญี่ปุ่นเปิดเผยมาตรการฉุกเฉินชุดใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์คนงานเสียชีวิตหรือฆ่าตัวตายอันเนื่องมาจากการทำงานหนักเกินไป โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเมื่อปลายปีที่แล้วเกิดเหตุการณ์คนงานหญิงคนหนึ่งของบริษัทเดนสึ ซึ่งเป็นบริษัทโฆษณารายใหญ่ของญี่ปุ่น ฆ่าตัวตายจากสาเหตุการทำงานหนักเกินไป
กระทรวงสาธารณสุข แรงงานและสวัสดิการสังคมของญี่ปุ่น ระบุว่า ทางกระทรวงจะเปิดเผยรายชื่อบริษัทที่มีพนักงานเข้าข่ายเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในสถานที่ทำงานหรือมีพนักงานถูกบังคับใช้แรงงานอย่างผิดกฎหมายเป็นเวลาหลายชั่วโมงในที่ทำงานมากกว่าหนึ่งแห่งของบริษัท
ทั้งนี้ ภายใต้กฎเกณฑ์ใหม่ที่มีการบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2558 นั้น รัฐบาลจะทำการเปิดเผยรายชื่อของบริษัทต่อสาธารณะ หากบริษัทเหล่านั้นมีพนักงานเกิน 10 คน หรือมากกว่า 25% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดในสถานที่ปฏิบัติงาน 3 แห่ง ถูกบีบบังคับให้ใช้แรงงานอย่างผิดกฎหมายเป็นเวลานานหลายชั่วโมง
นอกจากนี้ รัฐบาลยังพยายามที่จะแก้ปัญหาการใช้แรงงานเกินเวลาโดยที่นายจ้างไม่จ่ายเงินค่าล่วงเวลาให้ โดยกระทรวงแรงงานเตรียมที่จะออกหนังสือชี้แจงเกี่ยวกับขอบเขตการทำงานสำหรับบริษัทต่างๆ เพื่อให้ทราบตรงกันว่า ในทางที่ถูกต้องนั้น พนักงานควรทำงานเป็นเวลากี่ชั่วโมง
สำนักข่าวเกียวโดระบุว่า รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ตั้งเป้าที่จะร่างนโยบายใหม่ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมี.ค.ปีหน้า ขณะที่มาตรการชุดใหม่ของกระทรวงแรงงาน ซึ่งรวมไปถึงมาตรการป้องกันปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิตของพนักงานนั้น มีกำหนดที่จะบังคับใช้หลังจากเดือนม.ค.ปีหน้าเป็นต้นไป
ทั้งนี้ ปัญหาพนักงานฆ่าตัวตายจากสาเหตุความเครียดนั้น เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในญี่ปุ่น และหนึ่งในเหตุการณ์ที่ทั่วโลกให้ความสนใจคือเหตุการณ์ที่ มัตสึริ ทากาฮาชิ พนักงานหญิงวัย 24 ปี ของบริษัทเดนสึ ได้ฆ่าตัวตายเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2558 หลังจากที่เธอเริ่มงานในเดือนเม.ย. ปีเดียวกัน ซึ่งต่อมาภายหลัง หน่วยงานกำกับดูแลด้านมาตรฐานแรงงานในกรุงโตเกียว ได้ทำการสืบสวนและได้ข้อสรุปในเดือนก.ย.ที่ผ่านมาว่า การฆ่าตัวตายของเธอเข้าข่ายการเสียชีวิตจากสาเหตุการทำงานหนักเกินไป หรือที่เรียกว่า "karoshi"