นายคาร์ลอส สลิม มหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของเม็กซิโก กล่าวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า การกระตุ้นการลงทุนและการจ้างงานในเม็กซิโกนั้น จะช่วยลดปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายในสหรัฐได้ดีกว่าการสร้างกำแพงกั้นชายแดนระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก
"สิ่งที่ควรสร้างมากกว่ากำแพงก็คือการสร้างโอกาส สร้างงาน ฟื้นฟูการลงทุนทั่วประเทศ และเปิดรับการลงทุนจากต่างชาติ" นายสลิมกล่าว
นอกจากนี้ นายสลิมยังกล่าวถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่า "ทรัมป์เป็นนักเจรจาที่ดีเยี่ยม แต่เขาไม่ใช่นักแก้ปัญหา"
การแสดงความคิดเห็นของนายสลิมมีขึ้นในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและเม็กซิโกถดถอยลงอย่างมาก นับตั้งแต่ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี ให้ดำเนินการสร้างกำแพงกั้นชายแดนระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโก เพื่อควบคุมการเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายและยกระดับความมั่นคงของประเทศ โดยในเวลาต่อมา ประธานาธิบดีเปนญา นิเอโต ของเม็กซิโก ได้ประกาศยกเลิกการเดินทางเยือนสหรัฐในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ นายคาลอส สลิม เป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงของเม็กซิโก โดยเขาเป็นเจ้าของธุรกิจให้บริการโทรศัพท์มือถือ "เทลเซล" ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดสูงกว่า 80% และยังเป็นเจ้าของบริษัท "อเมริกา โมวิล" ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วจนขึ้นแท่นเป็นผู้ให้บริการระบบการสื่อสารไร้สายที่ใหญ่ที่สุดในละตินอเมริกา นอกจากนี้ คาร์ลอส สลิม ยังครองตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกติดต่อกันหลายปี จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์