สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแห่งรัฐสภาอังกฤษลงมติเป็นเอกฉันท์ หลังการอภิปรายฉุกเฉิน เรียกร้องให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ยกเลิกคำสั่งห้ามไม่ให้พลเมืองจาก 7 ประเทศมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐ
การอภิปรายดังกล่าวดำเนินไปเป็นระยะเวลา 3 ชั่วโมง ซึ่งในระหว่างการอภิปรายนั้น ผู้ประท้วงหลายพันรายได้รวมตัวกันอยู่ที่บริเวณด้านหน้าทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษ บนถนนดาวนิง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกคำเชิญทรัมป์เยือนสหราชอาณาจักร
รายงานข่าวระบุว่า การประท้วงเกิดขึ้นในกว่า 35 เมืองทั่วประเทศอังกฤษ ทั้งแมนเชสเตอร์ ลิเวอร์พูล นิวคาสเซิล เชฟฟิลด์ และอ็อกซ์ฟอร์ด รวมถึงคาร์ดิฟฟ์ เมืองหลวงของเวลส์ และกลาสโกว์ เมืองใหญ่ที่สุดของสกอตแลนด์ด้วย
ขณะเดียวกัน ประชาชนกว่า 1.5 ล้านรายได้ลงนามในคำร้องต่อรัฐสภาอังกฤษ ระบุนายทรัมป์ไม่ควรได้รับเชิญให้เดินทางเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการ
การลงชื่อในคำร้องและการอภิปรายฉุกเฉินมีขึ้นหลังจากที่นายทรัมป์ได้เซ็นคำสั่งประธานาธิบดีห้ามพลเมืองจาก 7 ประเทศมุสลิม ได้แก่ อิหร่าน อิรัก ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน ซีเรีย และเยเมน เข้าสหรัฐ เป็นเวลา 90 วัน โดยมีผลทันที
ลอร์ด แพดดี้ แอชดาวน์ อดีตหัวหน้าพรรคเสรีนิยม ออกโรงเตือนว่าการเยือนอังกฤษของทรัมป์จะก่อให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในลอนดอน
ด้านนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ถูกโจมตีจากนักการเมืองฝ่ายค้านจากกรณีที่เธอไม่แสดงความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับการออกคำสั่งดังกล่าวของนายทรัมป์
ขณะที่นายเอ็ด มิลิแบนด์ อดีตหัวหน้าพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นผู้ขอให้มีการเปิดอภิปรายฉุกเฉิน ได้เรียกร้องให้นายกฯอังกฤษหารือกับนายทรัมป์เป็นการส่วนตัว เพื่อแสดงท่าทีของอังกฤษที่มีต่อนโยบายของผู้นำสหรัฐ