นายฟรองซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ หลังจากเกิดเหตุรุนแรงในเขตชานเมืองทางตอนเหนือของกรุงปารีส อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนเหตุทำร้ายร่างกายและกระทำชำเราชายคนหนึ่งที่ถูกจับกุมตัว
นายออลลองด์กล่าวว่า "แม้จะเป็นความรุนแรงจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ก็ไม่มีการละเว้นการลงโทษ" พร้อมยืนยันว่า ทางรัฐบาลจะใช้กระบวนการยุติธรรมโดยไม่เห็นแก่พวกพ้อง โดยนายออลลองด์ได้เดินทางเยี่ยมชายคนดังกล่าวที่โรงพยาบาลอัลนาย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ปธน.ออลลองด์ยังเรียกร้องให้ประชาชนในพื้นที่ที่เกิดเหตุนั้น อยู่ในความสงบ โดยพื้นที่ทางตอนเหนือแห่งนี้เคยเกิดเหตุจลาจลในปี 2548 กระทั่งนายนิโคลาส ซาร์กอซี ประธานาธิบดีสมัยนั้นและรมว.มหาดไทยคนปัจจุบันต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน โดยในวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา เกิดเหตุจลาจลบริเวณโอลเน่-ซู-บัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายถูกกล่าวหาในกรณีใช้กำลังเกินกว่าเหตุขณะจับกุมชายผิวสีวัย 22 ปีและกระทำชำเรา
เหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่เหตุการณ์จลาจลรุนแรงในคืนวันอังคารที่ผ่านมา โดยมีการจุดไฟเผารถยนต์หลายสิบคันและผู้ประท้วงวัยหนุ่มสาว 17 คนถูกจับกุมตัวหลังปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 4 นายถูกพักงานและอยู่ระหว่างการคุมตัวสอบสวนอย่างเป็นทางการ หลังต้องสงสัยก่อเหตุข่มขืนและสร้างความรุนแรงเกินกว่าเหตุ