ตำรวจมาเลเซียเปิดเผยในวันนี้ว่า มาเลเซียสามารถสกัดกั้นแผนการวางระเบิดคาร์บอมบ์ของกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) พร้อมจับตัวผู้ต้องสงสัยได้ 7 คน
คาลิด อาบู บาการ์ ผู้บัญชาการตำรวจของมาเลเซีย ระบุในแถลงการณ์ว่า ชาย 7 คน ประกอบด้วยชาวมาเลเซีย 1 คน อินโดนีเซีย 1 คน จากประเทศในเอเชียตะวันออก 1 คน และชาวเยเมน 4 คน ได้ถูกจับกุมตัวในการบุกเข้าตรวจค้นในกรุงกัวลาลัมเปอร์และแถบชานเมือง ระหว่างวันที่ 21-26 ก.พ. ที่ผ่านมา
นายคาลิดระบุว่า ชายชาวมาเลเซียเป็นช่างโรงงานอายุ 41 ปี และชาวอินโดนีเซียเป็นชาวนาวัย 28 ปี ทั้งคู่ถูกจับกุมตัวในวันที่ 21 ก.พ. ผู้ต้องสงสัย 2 คนนี้ได้รับคำสั่งจากนายมูฮัมหมัด วานน์ดี มูฮัมหมัด เจดี ให้เปิดการโจมตีครั้งใหญ่ในมาเลเซีย และจากนั้นจึงค่อยไปเข้าร่วมกับกลุ่มรัฐอิสลามในซีเรีย
นายมูฮัมหมัด วานน์ดี เป็นพลเมืองชาวมาเลเซียที่หลบหนีไปเป็นสมาชิกกลุ่ม IS ในซีเรีย โดยตำรวจระบุว่า เขาเป็นผู้บงการก่อเหตุระเบิดผับในชานเมืองของกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2559 ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 คน
ขณะเดียวกัน การสอบสวนเบื้องต้นได้นำไปสู่การเปิดเผยว่า ผู้ต้องสงสัยชาวอินโดนีเซียได้ถูกเนรเทศจากตุรกีเมื่อเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว หลังถูกจับกุมตัวจากการพยายามแอบลักลอบเข้าไปในซีเรียเพื่อเข้าร่วมกลุ่ม IS
ด้านผู้ต้องสงสัยวัย 37 ปีจากประเทศเอเชียตะวันออก ซึ่งถูกจับกุมตัวในวันที่ 23 ก.พ. นั้น เชื่อว่าเป็นสมาชิกของกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มหนึ่งในเอเชียตะวันออก ที่ใช้มาเลเซียเป็นสถานที่กบดาน
สำหรับชาวเยเมน 4 คน ซึ่งถูกจับกุมในวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา เชื่อว่าเป็นสมาชิกของกลุ่มกบฏในเยเมน จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ผู้ต้องสงสัยชาวเยเมนเหล่านี้ยังมีส่วนพัวพันในการทำเอกสารเดินทางปลอมด้วย
ในระหว่างการจู่โจมดังกล่าว ทางการมาเลเซียได้ยึดหนังสือเดินทางหลากหลายประเทศ และเงินสดมูลค่า 270,000 ริงกิต (ประมาณ 60,600 ดอลลาร์) ในสกุลเงินต่างๆ