บริษัทชั้นนำอย่าง หัวเว่ย, ไชน่าโมบายล์, ดอยช์ เทเลคอม และโฟล์คสวาเกน ต่างแสดงมุมมองเกี่ยวกับอนาคตของเครือข่าย 5G ลงในนิตยสาร "5G Service Guaranteed Network Slicing" โดยบรรดาผู้ให้บริการ และผู้ประกอบการเครือข่ายเหล่านี้ ได้กล่าวถึงการค้นพบโมเดลธุรกิจแบบใหม่ ที่เกิดขึ้นจากวิวัฒนาการในการก้าวเข้าสู่ยุค 5G ของเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในปัจจุบัน
การมาถึงของเครือข่ายบรอดแบนด์ความเร็วสูง 5G จะทำให้โลกก้าวเข้าสู่ยุคใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเข้ากับทุกสิ่ง (Internet of Things หรือ IoT) และก่อให้เกิดอุตสาหกรรมและการให้บริการแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ยกตัวอย่างเช่น บริการด้านสุขภาพเคลื่อนที่, ยานพาหนะที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต, อุตสาหกรรมและที่อยู่อาศัยอัจฉริยะ ตลอดจนการควมคุมด้านสิ่งแวดล้อมที่ดีมากขึ้น
เทคโนโลยี 5G ที่เข้ามานี้ จะเชื่อมต่ออุปกรณ์ใหม่ๆนับล้านเครื่องเข้าด้วยกัน จึงจำเป็นต้องมีการจัดการเครือข่ายที่มีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการบริการในรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็น การให้บริการด้วยระบบคลาวด์, การใช้เทคนิคที่เรียกว่า "เครือข่ายแยกส่วน" (network slicing) ที่ช่วยแบ่งเครือข่ายออกเป็นส่วนๆ เพื่อสนับสนุนการให้บริการที่แตกต่างกันตามความต้องการของแต่ละธุรกิจ
นายหยาง เฉ่าผิน ประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ 5G ของหัวเว่ย กล่าวว่า "หัวเว่ยกำลังพยายามสร้างโลกที่มีการเชื่อมโยงและจัดเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้บนคลาวด์ผ่านเครือข่าย 5G"
นายหยางยังกล่าวด้วยว่า "เทคโนโลยีเครือข่ายแยกส่วน 5G จะช่วยให้เรามีเครือข่ายที่แยกออกจากกันตามการให้บริการที่แตกต่างกันของเครือข่ายมือถือแต่ละเครือข่ายในอนาคต ซึ่งบรรดาผู้ประกอบการ, ผู้ให้บริการ, และอุตสาหกรรมแนวดิ่ง จะต้องให้ความร่วมมือและเปิดทางให้กับการใช้เทคโนโลยีเชิงพาณิชย์" สำนักข่าวซินหัวรายงาน