กลุ่มสิทธิมนุษยชนออกมาวิพากษ์วิจารณ์คำตัดสินของศาลอินโดนีเซียในวันนี้ ซึ่งได้สั่งจำคุกนายบาสุกี จาฮายา เปอร์นามา ผู้ว่าราชการกรุงจาการ์ตา เป็นเวลา 2 ปี ในข้อหาดูหมิ่นศาสนาอิสลาม
ทั้งนี้ นายชาร์ลส์ ซานติอาโก ประธานสภาสิทธิมนุษยชนแห่งอาเซียน (APHR) ซึ่งเป็นกองค์กรตรวจสอบสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า "อินโดนีเซียถูกมองว่าเป็นผู้นำในภูมิภาคในด้านประชาธิปไตย และความโปร่งใส การตัดสินของศาลทำให้มุมมองดังกล่าวเปลี่ยนแปลงไป และสร้างความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของอินโดนีเซียในฐานะที่เป็นสังคมที่หลากหลาย, ผ่อนปรน และเปิดกว้าง"
นอกจากนี้ นายซานติอาโกยังเป็นสมาชิกรัฐสภาของมาเลเซีย
ทางด้านประธานาธิบดีโจโก วิโดโดแห่งอินโดนีเซียเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพคำตัดสินของศาลที่ได้สั่งจำคุกนายเปอร์นามา
"ผมขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพกระบวนการยุติธรรม และคำตัดสินของศาล รวมทั้งเคารพการที่นายเปอร์นามาจะทำการยื่นอุทธรณ์" เขากล่าว
เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา นายเปอร์นามา หรือที่รู้จักกันในชื่อ"อาฮก" ซึ่งเป็นชาวอินโดนีเซียเชื้อสายจีนที่นับถือศาสนาคริสต์ ได้ขึ้นปราศรัยต่อประชาชนบนเกาะแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของกรุงจาการ์ตา โดยแนะนำไม่ให้ประชาชนหลงเชื่อบุคคลที่กล่าวอ้างบทบัญญัติในคัมภีร์อัลกรุอานที่ว่า ผู้ที่ไม่ใช่ชาวมุสลิมไม่ควรถูกเลือกให้เป็นผู้นำ
ต่อมา คำปราศรัยของนายเปอร์นามาถูกนำมาเรียบเรียงโดยอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จนดูเหมือนว่านายเปอร์นามาจงใจพูดให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อความในพระคัมภีร์เสียเอง ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และการเดินประท้วงอย่างหนักในกรุงจาการ์ตา
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วศาลอินโดนีเซียได้ตัดสินจำคุกนายเปอร์นามา โดยหนึ่งในผู้พิพากษาระบุว่า คณะลูกขุนมีความเห็นว่านายเปอร์นามามีความผิดจริงหลังพิจารณาจากหลักฐานและคำให้การของพยาน
ทั้งนี้ หลังจากศาลมีคำพิพากษาออกมา นายเปอร์นามาได้ตัดสินใจยื่นอุทธรณ์ในทันที