มหาวิทยาลัยในกลุ่มรัสเซลหรือรัสเซลกรุ๊ป (Russell Group) เปิดเผยว่า การที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) จะทำให้เกิดอุปสรรคที่เป็นข้อจำกัดสำหรับการวิจัยระหว่างประเทศ
ดร.ทิม แบรดชอว์ รักษาการผู้อำนวยการรัสเซลกรุ๊ป ซึ่งเป็นกลุ่มมหาวิทยาลัยชั้นนำของอังกฤษ 24 แห่ง กล่าวในแถลงการณ์ โดยเรียกร้องให้ผู้เจรจาของอังกฤษและสหภาพยุโรป (อียู) ให้ความสำคัญกับเรื่องวิทยาศาสตร์และการวิจัยเป็นอันดับต้นๆ ในระหว่างการเจรจา Brexit
แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปได้เตรียมความพร้อมเพื่อเริ่มดำเนินการเจรจา Brexit กับอังกฤษ
ดร.แบรดชอว์ กล่าวว่า "การทำงานร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยในกลุ่มรัสเซล และมหาวิทยาลัยพันธมิตรในยุโรปนั้น ทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆทั้งในด้านการแพทย์ วิศวกรรม และสาขาวิชาอื่นๆ มากมาย ความร่วมมือนี้จะดำเนินต่อไปหลัง Brexit แต่จะไม่มีใครเอาชนะอุปสรรค์ใหม่ที่เป็นข้อจำกัดในการร่วมมือกันได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีทั้งกับอังกฤษและอียู"
ทั้งนี้ บทความวิชาการเกือบครึ่งหนึ่งของสถาบันการศึกษาในอังกฤษเกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างประเทศ และประเทศสมาชิกอียูเป็นกลุ่มพันธมิตรที่ใหญ่ที่สุดกลุ่มหนึ่งของรัสเซลกรุ๊ป
"พลเมืองจากประเทศอื่นๆในอียู 86,000 คน ที่มาทำงานและเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยในกลุ่มรัสเซลนั้น ช่วยให้มั่นใจว่าสถาบันของเรายังคงมีแรงขับเคลื่อนและนวัตกรรม เราให้ความสำคัญกับเพื่อนร่วมงานจากอียูเป็นอย่างมาก และต้องการความแน่ใจว่าหลัง Brexit แล้ว พวกเขาจะยังคงมีสิทธิ์อาศัยและทำงานในอังกฤษเช่นเดิม"