นายสเตอร์จิออส พิตสิออร์ลาส รมช.กระทรวงเศรษฐกิจและการพัฒนาของกรีซ เปิดเผยว่า กรีซทำรายได้อย่างน้อย 1 พันล้านยูโร (1.1 พันล้านดอลลาร์) จากมาตรการ Golden Visa ภายในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
"ผลการดำเนินมาตรการจนถึงขณะนี้น่าพอใจมากและมีแนวโน้มที่ดี" รัฐมนตรีกรีซกล่าวต่อรัฐสภาในกรุงเอเธนส์ โดยเป็นการตอบคำถามของส.ส.พรรคฝ่ายค้านรายหนึ่ง
สำนักข่าว AMNA รายงานว่า นายพิตสิออร์ลาสเผยว่า จากข้อมูลที่ทางการกรีซรวบรวมจนถึงวันที่ 30 เม.ย.ปีนี้ พบว่ากรีซได้ออกวีซ่าดังกล่าวให้พลเมืองประเทศที่ 3 รวมทั้งสิ้น 1,684 ราย ซึ่ง 701 รายในจำนวนนี้เป็นชาวจีน ตามมาด้วยรัสเซีย 357, อียิปต์ 84, ตุรกี 81, ยูเครน 79, เลบานอน 78, อิรัก 53, ซีเรีย 45, จอร์แดน 37 และซาอุดีอาระเบีย 16 ราย
มาตรการ Golden Visa ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 2556 จะให้สิทธิพำนักในกรีซแก่พลเมืองจากประเทศที่ 3 ที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์มูลค่ามากกว่า 250,000 ยูโรในกรีซ รวมไปถึงสมาชิกในครอบครัวของบุคคลดังกล่าว โดยมาตรการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งจากผลลัพธ์และแนวโน้มที่ดี รัฐบาลกรีซจึงมีความตั้งใจที่จะปรับปรุงมาตรการในเร็วๆนี้ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับแผนการที่วางไว้
อย่างไรก็ดี สำนักข่าว AMNA รายงานอ้างแหล่งข่าวในรัฐบาลว่า มาตรการ Golden Visa ในอนาคตจะครอบคลุมถึงทรัพย์สินที่นอกเหนือไปจากอสังหาริมทรัพย์ อาทิ การลงทุนในตลาดพันธบัตรมูลค่า 250,000 ยูโร