หน่วยงานความมั่นคงยูเครน (SBU) เปิดเผยว่า พบหลักฐานบ่งชี้ว่ารัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีของมัลแวร์เรียกค่าไถ่ (แรนซัมแวร์) ที่มีชื่อว่า Petwrap ซึ่งแพร่ระบาดไปทั่วโลกเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
SBU กล่าวว่า การโจมตีครั้งนี้มีความเชื่อมโยงไปถึงเหตุการณ์โจมตีทางไซเบอร์ต่อยูเครน ซึ่งทำให้เกิดไฟฟ้าดับในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของประเทศ เมื่อเดือนธ.ค.2559
ขณะที่รัสเซียได้ออกมาปฏิเสธความเกี่ยวข้อง โดยระบุว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่มีมูลความจริง
ทั้งนี้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (27 มิ.ย.) ได้เกิดเหตุมัลแวร์เรียกค่าไถ่ระบาดทั่วโลก โดยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ดังกล่าวประกอบด้วยรหัสชื่อ "Eternal Blue" ซึ่งเป็นรหัสที่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อกันว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับมัลแวร์เรียกค่าไถ่ "WannaCry" ที่โจมตีคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเมื่อเดือนพฤษภาคม
มัลแวร์ Petwrap จะโจมตีคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ โดยจะล็อคฮาร์ดไดรฟ์และทำให้ไฟล์งานเสียหาย เพื่อเรียกค่าไถ่จากเจ้าของเครื่องแลกกับการถอดรหัสปลดล็อกคอมพิวเตอร์ โดยจำเป็นต้องจ่ายค่าไถ่ผ่านบิทคอยน์ที่คิดเป็นเงินจริงประมาณ 300 ดอลลาร์
ยูเครนเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักสุดและคาดว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นการแพร่ระบาดในครั้งนี้ ก่อนที่จะลุกลามสร้างความเสียหายให้กับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงผู้ประกอบการท่าเรือทั่วโลก
รัฐบาลยูเครนออกมาเปิดเผยว่า การโจมตีครั้งนี้ทำให้เกิดปัญหาขัดข้องต่อการจ่ายกระแสไฟฟ้า และส่งผลกระทบต่อธนาคาร ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญบางรายยังคงไม่ปักใจเชื่อข้อกล่าวหาของยูเครน เนื่องจากเห็นว่ารัสเซียก็ได้รับผลกระทบจากการโจมตีดังกล่าวเช่นกัน โดยแฮกเกอร์ได้ทำการโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ของธนาคารในรัสเซียหลายแห่ง รวมถึงบริษัทรอสเนฟท์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของรัสเซียด้วย