กระทรวงการต่างประเทศอียิปต์แถลงในวันนี้ว่า รัฐมนตรีต่างประเทศจากอียิปต์ ซาอุดิอาระเบีย บาห์เรน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จะประชุมกันที่กรุงไคโรในวันพุธนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับวิกตการณ์เกี่ยวกับกาตาร์
เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน อียิปต์ เยเมน ลิเบีย และมัลดีฟ ได้ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับกาตาร์ หลังกล่าวหาว่า กาตาร์ให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย และอิหร่าน รวมทั้งบ่อนทำลายเสถียรภาพในภูมิภาค
ซาอุดิอาระเบีย บาห์เรน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ระบุว่า ทั้ง 3 ชาติจะปิดชายแดนทางบก และทะเล รวมทั้งสนามบินต่อกาตาร์ โดยห้ามกาตาร์รุกล้ำดินแดน น่านน้ำ และน่านฟ้าของทั้ง 3 ประเทศ
คาดว่าอียิปต์ ซาอุดิอาระเบีย บาห์เรน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะหารือเกี่ยวกับท่าทีที่จะดำเนินการต่อกาตาร์ต่อไปในวันพุธนี้ หลังจากที่กาตาร์ยังไม่ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องที่ชาติอาหรับดังกล่าวได้ยื่นต่อกาตาร์ก่อนหน้านี้ ซึ่งมีกำหนดเส้นตายเมื่อวานนี้ แต่ก็ได้มีการขยายออกไปอีก 48 ชั่วโมงตามข้อเรียกร้องของรัฐบาลคูเวต
อียิปต์ถือเป็นไม้เบื่อไม้เมากับกาตาร์ เนื่องจากกาตาร์ให้การสนับสนุนกลุ่มภราดรภาพมุสลิม ซึ่งเป็นองค์กรที่ถูกรัฐบาลอียิปต์ขึ้นบัญชีดำ
เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ซาอุดิอาระเบีย บาห์เรน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอียิปต์ ได้ยื่นข้อเรียกร้อง 13 ข้อต่อกาตาร์ผ่านทางคูเวต ซึ่งหากกาตาร์ปฏิบัติตาม บรรดาชาติอาหรับก็พร้อมที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ และยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร แต่หากกาตาร์ไม่ยอมปฏิบัติตามภายในเวลา 10 วัน ข้อเสนอนี้ก็จะถือเป็นโมฆะ
หลังจากนั้นไม่นาน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของกาตาร์ได้ออกมาปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าว
รัฐมนตรีกาตาร์กล่าวว่า ข้อเรียกร้องเหล่านี้เป็นข้อเรียกร้องที่ไม่สมเหตุสมผล อีกทั้งยังเป็นข้อเรียกร้องที่ไม่สามารถปฏิบัติได้
ทั้งนี้ รายละเอียดของข้อเรียกร้องทั้ง 13 ข้อ มีดังนี้:-
1. กาตาร์จะต้องลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่าน พร้อมกับปิดสถานทูตอิหร่านในกาตาร์ นอกจากนี้ กาตาร์จะต้องขับไล่สมาชิกของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านออกจากประเทศ และจำกัดความสัมพันธ์ทางการค้ากับอิหร่าน รวมทั้งตัดความร่วมมือด้านการทหารกับอิหร่าน
2. กาตาร์จะต้องปิดฐานทัพของตุรกีในประเทศ และยุติความร่วมมือด้านการทหารกับตุรกี
3. กาตาร์จะต้องประกาศตัดความสัมพันธ์กับกลุ่มก่อการร้าย รวมถึงกลุ่มภราดรภาพมุสลิม, กลุ่มรัฐอิสลาม (IS), อัล เคดา, และฮิสบอลลาห์ นอกจากนี้ กาตาร์จะต้องระบุว่าองค์กรเหล่านี้เป็นกลุ่มก่อการร้าย และใส่ลงในรายชื่อที่มีการประกาศโดยชาติอาหรับทั้ง 4
4. กาตาร์จะต้องยุติการให้การสนับสนุนด้านการเงินต่อกลุ่มก่อการร้าย รวมถึงกลุ่มที่ชาติอาหรับทั้ง 4, สหรัฐ และองค์การระหว่างประเทศประกาศว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย
5. กาตาร์จะต้องส่งมอบตัวผู้ก่อการร้ายทั้งหมดซึ่งเป็นที่ต้องการของชาติอาหรับทั้ง 4, สหรัฐ และองค์การระหว่างประเทศ รวมทั้งอายัดทรัพย์สินของพวกเขา และกาตาร์จะต้องไม่ให้ที่พักพิงแก่กลุ่มก่อการร้ายอื่นๆในอนาคต และการตาร์จะต้องแจ้งข้อมูลความเคลื่อนไหว, สถานที่อยู่ และข้อมูลด้านการเงินแก่ชาติอาหรับทั้ง 4, สหรัฐ และองค์การระหว่างประเทศ
6. กาตาร์จะต้องปิดสำนักข่าวอัล จาซีรา และช่องข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
7. กาตาร์จะต้องยุติการแทรกแซงกิจการภายใน และภายนอกของชาติอาหรับทั้ง 4 และกาตาร์จะต้องตัดความสัมพันธ์กับกลุ่มต่อต้านรัฐบาลในชาติอาหรับทั้ง 4 และให้รายละเอียดเกี่ยวกับความร่วมมือในอดีตระหว่างกาตาร์และกลุ่มเหล่านี้
8. กาตาร์จะต้องจ่ายเงินชดใช้ความเสียหายและค่าเสียโอกาสต่อชาติอาหรับทั้ง 4 ที่สืบเนื่องจากนโยบายของกาตาร์
9. กาตาร์จะต้องปรับนโยบายในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นด้านการทหาร การเมือง เศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง ให้สอดคล้องกับประเทศเพื่อนบ้านในอ่าวอาหรับ และรับประกันความมั่นคงของชาติอาหรับ และปฏิบัติตามข้อตกลงริยาดห์ในปี 2013-2014
10. กาตาร์จะต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการสนับสนุนกลุ่มต่อต้านรัฐบาลในชาติอาหรับทั้ง 4 รวมทั้งกาตาร์ให้ความช่วยเหลืออย่างไรต่อกลุ่มดังกล่าว
11. กาตาร์จะต้องปิดสื่อทั้งหมดที่กาตาร์ให้การสนับสนุนทั้งทางตรง และทางอ้อม
12. ข้อเรียกร้องเหล่านี้จะต้องได้รับการปฏิบัติตามภายในเวลา 10 วัน นับตั้งแต่ที่มีการแจ้ง มิฉะนั้นจะถือว่าเป็นโมฆะ
13. ข้อตกลงนี้ รวมถึงการที่กาตาร์จะต้องมีเป้าหมาย และกลไกที่ชัดเจน โดยกาตาร์จะต้องทำรายงานทุกเดือนในช่วงเวลาปีแรก และทุกๆ 3 เดือนในปีถัดไป และหลังจากนั้น ต้องทำปีละครั้งเป็นเวลา 10 ปี