นายแดเนียล กลีสัน นักวิเคราะห์อาวุโสของบริษัทโอวุม กล่าวว่า การที่บริษัทแอปเปิล อิงค์กำหนดเวลาการวางจำหน่ายไอโฟนเท็น ในวันที่ 3 พ.ย. ซึ่งล่าช้ากว่าการวางจำหน่ายไอโฟน 8 และไอโฟน 8 พลัส จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อผลประกอบการในไตรมาส 4 ของแอปเปิล
ทั้งนี้ ไอโฟนเท็นถือเป็นไอโฟนระดับไฮเอนด์ที่ดีที่สุดของแอปเปิล โดยมีการออกแบบใหม่หมดแตกต่างจากไอโฟน 7 และไอโฟน 7 พลัส โดยมีหน้าจอ OLED แบบใหม่ ซึ่งดีกว่าแบบ LCD ที่ใช้กันในไอโฟนโดยทั่วไป
นอกจากนี้ ไอโฟนเท็นไม่มีปุ่ม home โดยผู้ใช้สามารถปัดหน้าจอขึ้นจากด้านล่างเพื่อกลับไปยัง home
ไอโฟนเท็นยังสามารถจดจำใบหน้าของผู้ใช้ แม้มีการเปลี่ยนทรงผมใหม่ เนื่องจากมีเซ็นเซอร์ 3D ทางด้านหน้าของโทรศัพท์
อย่างไรก็ดี มีข่าวลือว่า การวางจำหน่ายไอโฟนเท็น อาจเผชิญปัญหาล่าช้า เนื่องจากการขาดแคลนหน้าจอ OLED รวมทั้งจากการที่แอปเปิลจำเป็นต้องหาซัพพลายเออร์หน้าจอรายใหม่นอกเหนือจากซัมซุง
นายกลีสันระบุว่า ลูกค้าที่ต้องการซื้อไอโฟนเท็น จะเป็นลูกค้าประเภทที่ต้องการได้รับสินค้าอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ลูกค้าที่ต้องการซื้อไอโฟน 8 และไอโฟน 8 พลัส จะไม่รู้สึกเร่งรีบต้องการสินค้าเหมือนกับกลุ่มไอโฟนเท็น
นายกลีสันกล่าวว่า พฤติกรรมของลูกค้าดังกล่าว ประกอบกับการที่แอปเปิลกำหนดวางจำหน่ายไอโฟนเท็นล่าช้ากว่าไอโฟน 8 และไอโฟน 8 พลัส จะทำให้ลูกค้ามีแนวโน้มที่จะยังไม่ซื้อไอโฟน 8 และไอโฟน 8 พลัส จนกว่าจะได้เห็นไอโฟนเท็นในเดือนพ.ย. ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3 ของแอปเปิลอย่างมาก
"ไอโฟนเท็นจะส่งผลกระทบต่อยอดขายของไอโฟน 8 ซึ่งจะสร้างความเสี่ยงอย่างมาก เนื่องจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของแอปเปิลในเดือนก.ย.มักจะช่วยหนุนยอดขายให้แอปเปิลอย่างมาก โดยจะกระตุ้นยอดขายในไตรมาส 3 และส่งผลให้ยอดขายแข็งแกร่งในไตรมาส 4" นายกลีสันกล่าว