องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) จะทำการเลือกตั้งผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ในวันนี้ ซึ่งต้องแบกรับภารกิจในการกอบกู้ความเชื่อมั่นขององค์กร ท่ามกลางความขัดแย้งของประเทศสมาชิก และการขาดแคลนเงินทุน หลังจากที่สหรัฐ และอิสราเอลประกาศถอนตัวเมื่อวานนี้
สหรัฐเป็นผู้สมทบเงินทุนช่วยเหลือยูเนสโกถึง 1 ใน 5 ในแต่ละปี แต่ได้ระงับการจ่ายเงินดังกล่าวตั้งแต่ปี 2554 หลังจากที่ยูเนสโกประกาศรับปาเลสไตน์เข้าเป็นสมาชิก
ทั้งนี้ หลังจากที่สมาชิกทำการลงคะแนนเสียงลับเป็นเวลา 4 วัน ที่สำนักงานใหญ่ของยูเนสโกที่กรุงปารีส ผู้ที่มีคุณสมบัติผ่านเข้าสู่การลงคะแนนเสียงรอบสุดท้ายในช่วงค่ำวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น คือนายฮาหมัด บิน อับดูลาซิส-อัล คาวารี ซึ่งเป็นอดีตรมว.วัฒนธรรมของกาตาร์
คู่แข่งของนายคาวารี อาจจะเป็นนางมูชิรา คัตทับ นักการทูตชาวอียิปต์ หรือนางออเดรย์ อาซูเลย์ อดีตรมว.วัฒนธรรมของฝรั่งเศส ซึ่งทั้งคู่จะต้องแข่งขันกันในการลงคะแนนเสียงในช่วงบ่ายวันนี้
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐแถลงวานนี้ว่า สหรัฐจะถอนตัวออกจากองค์การยูเนสโก เนื่องจากมีอคติต่ออิสราเอล
การถอนตัวของสหรัฐจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 31 ธ.ค. 2561 ซึ่งหลังจากนั้น สหรัฐจะมีสถานะเป็นประเทศสังเกตุการณ์ที่ไม่เป็นสมาชิกของยูเนสโก
อย่างไรก็ดี แถลงการณ์ระบุว่า "สหรัฐจะยังคงให้การสนับสนุนการปกป้องมรดกโลก, ส่งเสริมเสรีภาพของสื่อ และให้ความร่วมมือในด้านวิทยาศาสตร์และการศึกษา"
ก่อนหน้านี้ สหรัฐเคยถอนตัวออกจากยูเนสโกในปี 2527 โดยกล่าวหายูเนสโกว่าเป็นองค์กรที่มีการคอร์รัปชั่น และมีแนวโน้มทางการเมืองในการสนับสนุนสหภาพโซเวียต แต่ก็ได้กลับเข้าเป็นสมาชิกอีกครั้งในปี 2546
อิสราเอลขานรับการตัดสินใจของสหรัฐในการประกาศถอนตัวออกจากยูเนสโก โดยอิสราเอลจะถอนตัวพร้อมกับสหรัฐในช่วงสิ้นปีหน้า
ในช่วงต้นปีนี้ ยูเนสโกสร้างความไม่พอใจต่ออิสราเอลด้วยการขึ้นทะเบียนเมืองเฮบรอนเป็นเมืองมรดกโลก โดยระบุว่าเมืองดังกล่าวตั้งอยู่ในรัฐปาเลสไตน์