นายเรย์มันด์ ลิโบโร ประธานคณะกรรมาธิการปกป้องข้อมูลส่วนตัวแห่งชาติของฟิลิปปินส์ (NPC) กล่าวในวันนี้ว่า ผู้บริหารของบริษัทอูเบอร์ ฟิลิปปินส์ ไม่สามารถชี้แจงว่า ข้อมูลของลูกค้าอูเบอร์ในฟิลิปปินส์ได้ถูกแฮกเกอร์ขโมยไปหรือไม่ หลังมีข่าวว่า อูเบอร์ถูกแฮกเกอร์โจรกรรมข้อมูลของลูกค้าจำนวน 57 ล้านรายทั่วโลกในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว
นายลิโบโรกล่าวว่า ผู้บริหารของอูเบอร์ ฟิลิปปินส์อ้างว่า ทางบริษัทได้รับข้อมูลเพียงเล็กน้อยจากสำนักงานใหญ่ของอูเบอร์ในสหรัฐ
นายลิโบโรระบุว่า NPC ขีดเส้นตาย 48 ชั่วโมงให้บริษัทอูเบอร์ ฟิลิปปินส์เปิดเผยข้อมูลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และชี้แจงว่าข้อมูลของลูกค้าในฟิลิปปินส์ได้รับผลกระทบหรือไม่ รวมทั้งมาตรการของอูเบอร์ที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว
นายลิโบโรกล่าวว่า การปกปิดการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัวที่มีความสำคัญ ถือเป็นความผิดทางอาญาในฟิลิปปินส์
ทั้งนี้ อูเบอร์ ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการรถโดยสารผ่านแอพพลิเคชัน ออกแถลงการณ์ก่อนหน้านี้ว่า บริษัทถูกแฮกเกอร์ล้วงข้อมูลเกี่ยวกับคนขับรถยนต์ของอูเบอร์ รวมทั้งผู้โดยสารทั่วโลกจำนวน 57 ล้านรายในปีที่แล้ว โดย 6 แสนรายเป็นคนขับรถอูเบอร์ในสหรัฐ ขณะที่บริษัทยอมจ่ายเงินจำนวน 1 แสนดอลลาร์ให้แก่แฮกเกอร์เพื่อแลกกับการลบข้อมูลทิ้ง และเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ
อูเบอร์ระบุว่า การขโมยข้อมูลดังกล่าวกระทำโดยบุคคล 2 คนจากบริษัทแห่งหนึ่งที่ให้บริการธุรกิจคลาวด์ โดยแฮกเกอร์สามารถโจรกรรมข้อมูลเกี่ยวกับชื่อ และทะเบียนรถยนต์ของคนขับอูเบอร์ รวมทั้งชื่อผู้โดยสาร อีเมล์แอดเดรส และเบอร์โทรศัพท์มือถือ
อย่างไรก็ดี ข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิต หมายเลขบัญชีธนาคาร บัตรประกันสังคม และวันเกิด ไม่ได้รับผลกระทบจากการโจรกรรมข้อมูลแต่อย่างใด
อูเบอร์ไม่ได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเจ้าหน้าที่ในปีที่แล้ว แต่ได้ออกแถลงการณ์เปิดเผยเรื่องดังกล่าวเมื่อวันอังคาร ขณะที่นายดารา คอสโรว์ชาฮี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอูเบอร์ ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อไม่กี่เดือนนี้ ออกแถลงการณ์ระบุว่า "เรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้น และผมจะไม่ขอแก้ตัว คุณอาจจะถามว่าทำไมเราถึงมาบอกตอนนี้ หนึ่งปีหลังเกิดเรื่องขึ้น ซึ่งผมก็มีคำถามนี้เหมือนกัน ดังนั้นผมจึงขอให้มีการสอบสวนเรื่องนี้อย่างละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น และเรารับมืออย่างไร"