สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นรายงานว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่นให้การอนุญาตเป็นพิเศษแก่นายวุฒินันท์ วัน สามารถพำนักอยู่ในญี่ปุ่นเป็นเวลา 1 ปี หลังจากที่เขาถูกศาลญี่ปุ่นสั่งเนรเทศกลับประเทศไทยก่อนหน้านี้ เนื่องจากบิดาและมารดาได้อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นอย่างผิดกฎหมาย
"บางทีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองยอมรับว่าเขามีถิ่นฐานถาวรในญี่ปุ่นแล้ว" ผู้ให้การสนับสนุนแก่นายวุฒินันท์กล่าว
ทางด้านสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองประจำภูมิภาคของโตเกียวยังไม่ได้ออกมาระบุถึงเหตุผลในการตัดสินใจให้การอนุญาตเป็นพิเศษแก่นายวุฒินันท์ในครั้งนี้
ทั้งนี้ นายวุฒินันท์ได้เกิดที่ญี่ปุ่นในปี 2543 โดยบิดาและมารดาซึ่งเป็นคนไทยได้เดินทางมายังญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2538 แต่ได้อยู่อย่างผิดกฎหมาย และต่อมาบิดาของนายวุฒินันท์ก็ได้แยกทางกับภรรยา
นายวุฒินันท์และมารดาได้รายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่นเพื่อขออนุญาตให้อยู่ในญี่ปุ่นต่อไป แต่เจ้าหน้าที่ได้สั่งเนรเทศพวกเขากลับประเทศไทยในปี 2557 ซึ่งต่อมามารดาของนายวุฒินันท์ได้เดินทางกลับประเทศไทย ขณะที่นายวุฒินันท์ยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อให้มีคำตัดสินให้คำสั่งเนรเทศเป็นโมฆะ แต่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ต่างก็มีคำสั่งเห็นพ้องกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้เนรเทศนายวุฒินันท์กลับประเทศไทย
นายวุฒินันท์ตัดสินใจไม่ยื่นฎีกา แต่ใช้วิธียื่นคำร้องให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทำการทบทวนคำสั่งเนรเทศ และให้สิทธิพำนักเป็นกรณีพิเศษ
เรื่องราวของนายวุฒินันท์ได้รับความเห็นใจจากชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก โดยมีการล่ารายชื่อได้จำนวนหลายพันคนในการยื่นคำร้องต่อรัฐบาลญี่ปุ่นเพื่อให้นายวุฒินันท์สามารถอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นต่อไป
นายวุฒินันท์เคยกล่าวว่า เขาคิดว่าเขาเป็นชาวญี่ปุ่นเพราะเกิดและเติบโตในญี่ปุ่น และอยู่กับคนญี่ปุ่นมาโดยตลอด และประเทศไทยไม่ใช่ที่ซึ่งเขาจะกลับไป โดยสำหรับเขาแล้ว ญี่ปุ่นเป็นบ้านเพียงแห่งเดียวของเขา