นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) แสดงความเสียใจต่อการสูญเสียชีวิตและความเสียหายรุนแรงจากพายุโซนร้อน "เทมบิน" ที่พัดถล่มเกาะมินดาเนาในประเทศฟิลิปปินส์ ตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ ส่งผลให้เกิดเหตุน้ำท่วมหนักและดินถล่ม และล่าสุดมีผู้เสียชีวิตราว 200 คน และสูญหายอีกหลายสิบคน
นายกูเตอร์เรสได้ส่งความเห็นใจไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิต และขอให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหายจากอาการบาดเจ็บโดยเร็ว นอกจากนี้ เลขาฯ UN ยังได้ยกย่องการปฏิบัติหน้าที่ของทีมกู้ภัยและช่วยชีวิตของฟิลิปปินส์ รวมถึงอาสาสมัคร ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในสภาวะที่ยากลำบาก
แถลงการณ์ระบุว่า องค์การสหประชาชาติพร้อมให้การสนับสนุนรัฐบาลฟิลิปปินส์และหน่วยงานท้องถิ่น นอกเหนือไปจากการให้การสนับสนุนผ่านทางพันธมิตรด้านมนุษยธรรมที่ดำเนินอยู่แล้วในเวลานี้
สถานีโทรทัศน์ ABS-CBN รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เกิดเหตุน้ำท่วมหนักและดินถล่มในจังหวัดซัมโบอันกา เดล นอร์เต ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 47 คน ขณะที่ผู้เสียชีวิต 39 คนอยู่ในเมืองตูบอด เอลซัลวาดอร์ และมูไน ในจังหวัดลาเนา เดล นอร์เต
รายงานข่าวระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 3 คนในจังหวัดบูกิดนอน ขณะที่เจ้าหน้าที่ในจังหวัดลาเนา เดล ซูร์ เผยว่ามีคนจมน้ำ 7 คนจากน้ำท่วมฉับพลัน
สำนักงานพยากรณ์อากาศเผยว่า พายุเทมบินเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกที่ความเร็ว 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และคาดว่าจะเคลื่อนออกจากมินดาเนาภายในวันจันทร์
ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์เผชิญกับพายุโซนร้อนหลายลูกในแต่ละปี โดยในปี 2546 ซูเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน ซึ่งเป็นหนึ่งในพายุลูกที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ได้สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ตอนกลางของฟิลิปปินส์ และคร่าชีวิตประชาชนมากกว่า 6,300 คน