นายปัค ซอง อิล เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติ (UN) เรียกร้องให้สหรัฐแสดงหลักฐานที่บ่งชี้ว่าเกาหลีเหนืออยู่เบื้องหลังการปล่อยแรนซัมแวร์ "WannaCry" โจมตีระบบคอมพิวเตอร์หลายแสนเครื่องทั่วโลกในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
นายปัคกล่าวว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นความพยายามที่จะสร้างบรรยากาศที่ตึงเครียดในการเผชิญหน้ากัน
คำกล่าวของนายปัคมีขึ้น หลังจากที่กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือออกมาปฏิเสธข่าวก่อนหน้านี้ที่ว่า เกาหลีเหนือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้แรนซัมแวร์ "WannaCry"
"เราได้พูดอย่างชัดเจนหลายครั้งแล้วว่า เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีทางไซเบอร์ และเราจะไม่ยอมทนต่อการกล่าวหาของสหรัฐซึ่งนำเรื่องนี้มาโจมตีเรา" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือกล่าว
"การกระทำของสหรัฐมาจากประเด็นทางการเมือง โดยมีเป้าหมายปลุกปั่นให้ประชาคมโลกเผชิญหน้ากับเรา ขณะที่สร้างความเสื่อมเสียต่อภาพพจน์ของเกาหลีเหนือ" เขากล่าว
ทั้งนี้ ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ประณามเกาหลีเหนือกรณีอยู่เบื้องหลังการโจมตีทางไซเบอร์ทั่วโลกในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความเสียหายต่อคอมพิวเตอร์หลายแสนเครื่องในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก
ทางการสหรัฐตรวจสอบพบว่า กลุ่มแฮกเกอร์ Lazarus ซึ่งมีส่วนเกี่ยวโยงกับเกาหลีเหนือเป็นผู้ปล่อยแรนซัมแวร์ "WannaCry" โจมตีระบบคอมพิวเตอร์เพื่อเรียกค่าไถ่แลกกับการปลดล็อก โดยเหตุโจมตีครั้งนั้นได้สร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อระบบคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานรัฐบาลหลายแห่ง โดยหนึ่งในนั้นคือ สำนักงานสาธารณสุขแห่งชาติอังกฤษ
นายโธมัส บอสเซิร์ต ผู้ช่วยประธานาธิบดีฝ่ายความมั่นคงแห่งมาตุภูมิและการต่อต้านการก่อการร้ายของสหรัฐ กล่าวว่า "พฤติกรรมมุ่งร้ายของเกาหลีเหนือทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ"
ก่อนหน้านี้ นายโยชิฮิเดะ ซูกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ก็ออกมายืนยันว่า เกาหลีเหนือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีครั้งนั้นอย่างแน่นอน