บริษัทแอปเปิล อิงค์ เปิดเผยว่า ปริมาณเงินสดในงบดุลบัญชีของบริษัทลดลงสู่ระดับ 2.672 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค. ซึ่งเป็นไตรมาสที่ 2 ของปีงบการเงินบริษัท จากระดับ 2.851 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาสก่อนหน้า และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย.ในปีที่แล้ว
การที่ปริมาณเงินสดในงบดุลบัญชีของแอปเปิลลดลง เนื่องจากบริษัทมีแผนที่จะทำการลงทุนมากขึ้น หลังสภาคองเกรสอนุมัติมาตรการปฏิรูปภาษี ซึ่งจะมีการปรับลดอัตราภาษีสำหรับเงินสดในต่างประเทศที่บริษัทเอกชนโอนกลับเข้ามาในสหรัฐ
แอปเปิลระบุว่า บริษัทมีแผนลงทุนในตลาดเกิดใหม่ และการสร้างงานในสหรัฐ โดยก่อนหน้านี้ แอปเปิลระบุในเดือนม.ค.ว่า บริษัทจะลงทุนจำนวน 3.5 แสนล้านดอลลาร์ในสหรัฐในช่วง 5 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ แอปเปิลยังเปิดเผยว่า ทางบริษัทจะรับซื้อหุ้นคืนจากนักลงทุนในวงเงิน 1 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากที่ได้ซื้อหุ้นคืนจำนวน 2.75 แสนล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ปี 2555
ขณะเดียวกัน บริษัทจะเพิ่มการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุนอีก 16% สู่ระดับ 73 เซนต์/หุ้น โดยแอปเปิลได้เพิ่มการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ที่มีการแตกหุ้นในปี 2557
ทั้งนี้ แอปเปิลเปิดเผยว่า รายได้ในไตรมาส 2 ในปีงบการเงินของบริษัท เพิ่มขึ้น 16% แตะระดับ 6.11 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขยายตัวที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 2 ปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 6.09 หมื่นล้านดอลลาร์
ส่วนกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ระดับ 2.73 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.64 ดอลลาร์
รายได้และกำไรที่แข็งแกร่งเกินคาดของแอปเปิล ช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของยอดขาย iPhone ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์หลักของแอปเปิล โดยรายงานระบุว่า ยอดขาย iPhone ในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 2.9% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แตะระดับ 52.2 ล้านเครื่อง แต่น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 52.3 ล้านเครื่อง