ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกโรงปกป้องนางจีน่า แฮสเปล ซึ่งได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (CIA) หลังมีข่าวว่านางแฮลเปลอาจถอนตัวจากตำแหน่งดังกล่าว เนื่องจากมีความกังวลต่อบทบาทเดิมของตนในขณะที่เป็นรองผู้อำนวยการ CIA ที่เกี่ยวข้องกับการตั้งคุกลับในไทยในปี 2545 เพื่อคุมขังและทรมานนักโทษของ CIA ที่พัวพันกับการก่อการร้าย
"คุณแฮลเปลถูกโจมตีเพราะแข็งกร้าวมากเกินไปต่อกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งในช่วงเวลาที่อันตรายอย่างมากนี้ เรามีบุคคลที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งเป็นสตรี และพรรคเดโมแครตไม่ต้องการให้เธอเป็นผอ.CIA เนื่องจากเธอแข็งกร้าวเกินไปต่อกลุ่มก่อการร้าย" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
แหล่งข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ในทำเนียบขาวกังวลว่าประวัติการทำงานในฐานะรองผอ.CIA ของนางแฮสเปล อาจสร้างปัญหาต่อวุฒิสภาสหรัฐในการลงมติให้การรับรองนางแฮสเปลดำรงตำแหน่งเป็นผอ.CIA
สื่อรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวได้เรียกตัวนางแฮสเปลเข้าพบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเพื่อสอบถามเกี่ยวกับประวัติการทำงานที่ผ่านมาที่เกี่ยวข้องกับการตั้งคุกลับในไทยในปี 2545 ซึ่งมีการใช้โค้ดลับ "Cat’s Eye" เพื่อคุมขังนักโทษของ CIA ที่พัวพันกับการก่อการร้าย โดยเฉพาะกลุ่มอัลกออิดะห์
มีรายงานว่านางแฮสเปลให้การสนับสนุนการทรมานนักโทษในคุกลับดังกล่าวเพื่อให้คายความลับออกมา โดยวิธีซึ่งเป็นที่นิยมคือการทำ waterboarding โดยให้นักโทษนอนหงายบนกระดาน และผู้คุมจะเอาผ้าชุบน้ำวางบนหน้านักโทษ พร้อมกับเทน้ำลงบนหน้าอย่างต่อเนื่องให้ไหลเข้าสู่จมูกและปาก ซึ่งจะทำให้นักโทษอยู่ในสภาพเหมือนกับกำลังจมน้ำ โดย CIA เชื่อว่าเมื่อนักโทษทนการทรมานด้วยวิธีนี้ไม่ไหว ก็จะยอมเปิดเผยความลับทุกอย่างที่ CIA ต้องการ
นางแฮสเปลแจ้งต่อทำเนียบขาวว่า ตนยินดีที่จะถอนตัวจากตำแหน่งผอ.CIA เพื่อหลีกเลี่ยงการซักฟอกจากคณะกรรมาธิการข่าวกรองประจำวุฒิสภาสหรัฐในวันพุธนี้ ซึ่งอาจกระทบต่อภาพลักษณ์ของ CIA
ทั้งนี้ การแต่งตั้งนางแฮสเปลเป็นผอ.CIA จำเป็นต้องได้รับการรับรองจากวุฒิสภาสหรัฐ และขณะนี้มีวุฒิสมาชิกจำนวนหนึ่งที่แสดงการคัดค้านการแต่งตั้งนางแฮสเปล เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งคุกลับในไทยเพื่อทรมานนักโทษก่อการร้าย โดยวุฒิสมาชิกเหล่านี้เตรียมซักฟอกนางแฮสเปลเกี่ยวกับการตั้งคุกลับดังกล่าวในการประชุมวันพุธนี้ ซึ่งจะจัดขึ้นเพื่อพิจารณาคุณสมบัติของนางแฮสเปล ซึ่งหากนางแฮสเปลไม่ได้รับการรับรองจากวุฒิสภา ก็จะส่งผลให้ปธน.ทรัมป์ต้องเลือกบุคคลใหม่มาดำรงตำแหน่งผอ.CIA