นายมูน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงในคืนนี้ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศยกเลิกการประชุมสุดยอดกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ
การประชุมดังกล่าวมีขึ้นในเวลา 23.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 21.30 น.ตามเวลาไทย โดยมีขึ้นที่ทำเนียบประธานาธิบดี
ผู้ที่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ได้แก่ หัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดี, ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคง, หัวหน้าสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ รวมทั้งรัฐมนตรีจากกระทรวงรวมชาติ, กลาโหม และต่างประเทศ
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตัดสินใจยกเลิกการประชุมสุดยอดกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งเดิมมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย.ที่สิงคโปร์
"เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาจากแถลงการณ์ล่าสุดของท่านซึ่งได้แสดงความโกรธ และความมุ่งร้ายอย่างเปิดเผย ผมรู้สึกว่ายังไม่เป็นการเหมาะสมในขณะนี้ที่จะมีการจัดการประชุมดังกล่าวที่มีการวางแผนมาอย่างยาวนาน" ปธน.ทรัมป์ระบุในจดหมายที่ส่งถึงนายคิม ซึ่งมีการเผยแพร่ในวันนี้
ข้อความในจดหมายดังกล่าวยังระบุว่า "ท่านพูดเกี่ยวกับสมรรถนะด้านนิวเคลียร์ของท่าน แต่เราก็มีอาวุธนิวเคลียร์จำนวนมาก และมีพลานุภาพเป็นอย่างมาก ซึ่งผมขอภาวนาต่อพระเจ้าว่าอาวุธนิวเคลียร์เหล่านี้จะไม่ถูกนำมาใช้"
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังระบุว่า "ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีโอกาสพบกับท่านในอนาคต และผมขอขอบคุณท่านที่ได้ปล่อยตัวประกันชาวอเมริกันซึ่งขณะนี้ได้กลับบ้าน และอยู่กับครอบครัวแล้ว นี่เป็นการแสดงออกที่งดงาม และผมรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก"
อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์ยังคงเปิดโอกาสสำหรับการจัดการประชุมสุดยอดในอนาคต โดยระบุว่า "ถ้าท่านได้เปลี่ยนใจเกี่ยวกับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการประชุมสุดยอดที่มีความสำคัญสูงสุดนี้ กรุณาอย่าได้ลังเลที่จะโทรศัพท์หรือเขียนจดหมายถึงผม โดยโลกนี้ โดยเฉพาะเกาหลีเหนือ ได้สูญเสียโอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับการมีสันติภาพที่ยั่งยืน รวมทั้งความร่ำรวย และความมั่งคั่ง ซึ่งโอกาสที่สูญเสียไปนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่น่าเศร้าสำหรับประวัติศาสตร์"
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ตัดสินใจยกเลิกการประชุมสุดยอดกับนายคิม หลังจากที่นางโช โซนฮุย รมช.ต่างประเทศของเกาหลีเหนือ กล่าวในวันนี้ว่า คำกล่าวของนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งได้เปรียบเทียบเกาหลีเหนือว่าเหมือนกับลิเบียนั้น ถือเป็นคำพูดที่โฉดเขลา และโง่เง่า
ก่อนหน้านี้ นายเพนซ์ได้กล่าวว่า เกาหลีเหนือจะพบกับจุดจบเหมือนกับลิเบีย หากไม่ยอมทำข้อตกลงนิวเคลียร์กับสหรัฐ
"ในฐานะที่เป็นบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของสหรัฐ ดิฉันไม่สามารถเก็บความประหลาดใจต่อคำพูดที่โฉดเขลา และโง่เง่าจากปากของคนที่เป็นรองประธานาธิบดีสหรัฐ" นางโชกล่าว
ขณะเดียวกัน นางโชยังกล่าวว่า เกาหลีเหนือจะพิจารณาไม่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในวันที่ 12 มิ.ย.ที่สิงคโปร์ หากสหรัฐมีพฤติกรรมไม่สอดคล้องตามหลักกฎหมาย และมีท่าทีคุกคาม
นางโชกล่าวว่า "หากสหรัฐต่อต้านเจตนารมณ์ที่ดีของเรา รวมทั้งมีการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายและมีท่าทีคุกคาม ดิฉันก็จะเสนอให้ผู้นำสูงสุดของเรา นำเรื่องการประชุมสุดยอดเกาหลีเหนือ-สหรัฐมาพิจารณาใหม่"
นอกจากนี้ เกาหลีเหนือได้ทำการขู่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะยกเลิกการประชุมสุดยอดกับปธน.ทรัมป์ ถ้าหากสหรัฐยังคงกดดันแต่เพียงฝ่ายเดียวให้เกาหลีเหนือยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์