สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายโชโกะ อาซาฮาระ ผู้ก่อตั้งลัทธิโอม ชินริเกียว ซึ่งถูกตัดสินว่าอยู่เบื้องหลังเหตุฆาตกรรมจำนวนมาก รวมถึงเหตุโจมตีด้วยแก๊สพิษซารินในระบบรถไฟฟ้าใต้ดินกรุงโตเกียวเมื่อปี 2538 นั้น ได้ถูกประหารชีวิตแล้วในวันนี้ รวมถึงสาวกของลัทธิอีกจำนวนหนึ่ง
นายอาซาฮาระ วัย 63 ปี หรือชื่อจริงคือ ชิซูโอะ มัตสึโมโตะ ถูกตัดสินประหารชีวิตจากความผิดฐานเป็นผู้บงการเหตุโจมตีที่สถานีรถไฟใต้ดินและเหตุฆาตกรรมอื่นๆ จนเป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 29 คน โดยนายอาซาฮาระถือเป็น 1 ใน 13 คนที่ถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยความผิดซึ่งเกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมจากลัทธิความเชื่อเรื่องโลกาวินาศ
นายอาซาฮาระถูกจับกุมตัวในเดือนพ.ค. 2538 โดยถูกจับหลังจากเกิดเหตุโจมตีด้วยแก๊สซารินที่สถานีรถไฟใต้ดินโตเกียวในวันที่ 20 มี.ค.ปีดังกล่าว ซึ่งคร่าชีวิตผู้เคราะห์ร้าย 13 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 6,200 คน
ในคำตัดสินของศาลเมื่อเดือนก.พ. 2547 นั้น ศาลกรุงโตเกียววินิจฉัยว่านายอาซาฮาระมีความผิดจริงตามข้อกล่าวหาทั้ง 13 กระทง และพิพากษาประหารชีวิตผู้นำลัทธิดังกล่าว โดยระบุว่า "ไม่อาจปฎิเสธได้ว่าแรงจูงใจและจุดประสงค์ของการก่อเหตุอาชญากรรมที่เกิดขึ้นนั้นอุกอาจและไร้สาระเกินไปในขณะที่เขาพยายามจะบงการประเทศญี่ปุ่นเพื่อความอยู่รอด"
นายอาซาฮาระยังถูกตัดสินว่าผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีด้วยแก๊สซารินในเมืองมัตสึโมโตะ จังหวัดนากาโนะ ในเดือนมิ.ย. 2537 ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 คน และบาดเจ็บกว่า 100 คน นอกจากนี้ยังถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงในเหตุฆาตกรรม นายซึซูมิ ซากาโมโตะ ทนายความ ซึ่งให้การช่วยเหลือครอบครัวชาวญี่ปุ่นที่ต้องการให้ลูกๆรอดพ้นจากการครอบงำของลัทธิดังกล่าว รวมถึงภรรยาของทนายความและลูกชายวัย 1 เดือน เมื่อเดือนพ.ย. 2532 โดยคำพิพากษาประหารชีวิตเจ้าของลัทธินี้ได้ข้อสรุปในปี 2549
ทั้งนี้ การประหารชีวิตนายอาซาฮาระเกิดขึ้นเมื่อการพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกลัทธิโอม ชินริเกียวสิ้นสุดลงหลังเวลาผ่านไปนานกว่า 20 ปี โดยในเวลานั้นศาลฎีกาสั่งไม่รับอุทธรณ์คำตัดสินประหารชีวิตของนายคัตสึยะ ทากาฮาชิ อดีตสาวกลัทธิคนสุดท้ายในการพิจารณาคดี