กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐได้เริ่มดำเนินการตรวจสอบผลกระทบด้านความมั่นคงของชาติจากการนำเข้ายูเรเนียม ซึ่งอาจนำไปสู่การเรียกเก็บภาษีและกำหนดโควต้านำเข้าใหม่
การสอบสวนดังกล่าวคล้ายคลึงกับการตรวจสอบการนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมก่อนหน้านี้ ซึ่งส่งผลให้มีการเพิ่มภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม อีกทั้งยังทำให้มีการปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จากประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่อย่างญี่ปุ่นและเยอรมนี
นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐกล่าวว่า การตรวจสอบในครั้งนี้จะต้องมีการตรวจสอบยูเรเนียมทั้งหมดในอุตสาหกรรมเหมืองของสหรัฐทั้งในด้านการเสริมสมรรถนะ, การป้องกันประเทศ และการบริโภคในภาคอุตสาหกรรม
"เราจะดำเนินการด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม เพื่อตรวจดูว่าการนำเข้ายูเรเนียมนั้นเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติหรือไม่"
ผลการสอบสวนดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อประเทศผู้ส่งออกยูเรเนียมอย่างแคนาดา, ออสเตรเลีย, รัสเซีย และคาซัคสถาน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า การผลิตยูเรเนียมของสหรัฐปรับตัวลดลงจากระดับ 49% ในปี 2530 เหลือเพียง 5% ของความต้องการสำหรับภาคการทหารและการผลิตไฟฟ้าของประเทศ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ยูเรเนียมเป็นส่วนประกอบสำคัญของคลังแสงนิวเคลียร์ ตลอดจนเป็นแหล่งพลังงานของเรือดำน้ำนิวเคลียร์เรือบรรทุกอากาศยานของสหรัฐ รวมถึงเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทั้ง 99 เตาซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 20% ของความต้องการใช้ไฟฟ้าในสหรัฐ