นายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ประกาศปลดนายคริส คอลลินส์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐสังกัดพรรครีพับลิกันของรัฐนิวยอร์ก ออกจากการเป็นกรรมการในคณะกรรมาธิการพลังงานและพาณิชย์ประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ หลังจากที่นายคอลลินส์ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวในข้อหาทำการซื้อขายหุ้นโดยใช้ข้อมูลภายใน และให้การเท็จต่อคณะผู้สอบสวนจากรัฐบาลกลางสหรัฐ
"ในขณะที่เขาจะมีความผิดจริง หรือมีความบริสุทธิ์ ถือเป็นเรื่องที่ศาลต้องตัดสิน แต่ข้อกล่าวหาที่มีต่อคุณคอลลินส์ก็ได้ทำให้คณะกรรมาธิการฝ่ายจริยธรรมของสภาผู้แทนราษฎรต้องทำการสอบสวนอย่างละเอียด" นายไรอันกล่าว
"การซื้อขายหุ้นโดยใช้ข้อมูลภายใน ถือเป็นการละเมิดความไว้วางใจต่อสาธารณชน หากเรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ คุณคอลลินส์ก็จะยังไม่สามารถดำรงตำแหน่งกรรมการในคณะกรรมาธิการพลังงานและพาณิชย์ประจำสภาผู้แทนราษฎร" เขากล่าว
ทั้งนี้ เอกสารคำฟ้องของคณะลูกขุนระบุว่า ในเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว นายคอลลินส์ ซึ่งเป็นกรรมการคนหนึ่งในบอร์ดบริหารของบริษัทอินเนท อิมมูโนเธราพูติกส์ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของออสเตรเลีย ได้โทรศัพท์แจ้งนายคาเมรอน คอลลินส์ บุตรชายของเขา เกี่ยวกับข้อมูลที่ว่ายาของบริษัทอินเนทไม่ผ่านการทดสอบของทางการสหรัฐ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวถือเป็นข้อมูลลับ และห้ามมีการเปิดเผยต่อสาธารณชน โดยนายคอลลินส์ได้แจ้งให้บุตรชายขายหุ้นของบริษัท รวมทั้งให้เปิดเผยข้อมูลนี้แก่บุคคลอื่น ส่งผลให้นายคาเมรอนขายหุ้นของอินเนท และเขายังได้ส่งข้อมูลดังกล่าวให้แก่นายสตีเฟน ซาร์สกี ซึ่งเป็นบิดาคู่หมั้นของเขา รวมทั้งบุคคลอื่นอีกหลายคน
คำฟ้องระบุว่า การกระทำดังกล่าวของนายคอลลินส์, นายคาเมรอน และนายซาร์สกีทำให้พวกเขาสามารถหลีกเลี่ยงการขาดทุนจำนวน 768,000 ดอลลาร์ที่อาจเกิดขึ้น ถ้าหากพวกเขาไม่ได้ขายหุ้นออกไป ก่อนที่จะมีการเปิดเผยข้อมูลการทดสอบยาของบริษัทอินเนทแก่สาธารณชน