ปาเลสไตน์ยุติโจมตีอิสราเอล หลังสองฝ่ายถล่มหนัก ส่งผลแรงงานไทยบาดเจ็บสาหัส

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า กองกำลังปาเลสไตน์ได้ตัดสินใจยุติการขยายความรุนแรงในการโจมตีอิสราเอล หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้ทำการปะทะกันตั้งแต่วันพุธ

"กองกำลังของเราได้ตอบโต้การก่ออาชญากรรมของศัตรู ซึ่งได้สังหารสมาชิกของขบวนการฮามาส 2 รายในระหว่างการฝึกซ้อมทางเหนือของฉนวนกาซ่าในวันอังคาร" แหล่งข่าวกล่าว และเสริมว่า กองกำลังปาเลสไตน์มองว่าการขยายความรุนแรงในรอบนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว และช่วงเวลาของความสงบจะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของฝ่ายอิสราเอล

ทางด้านนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เรียกประชุมฉุกเฉินในวันนี้ หลังจากที่เกิดการปะทะกันอย่างหนักระหว่างกองทัพอิสราเอลและกองกำลังของกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นชาวปาเลสไตน์ที่ครอบครองดินแดนในฉนวนกาซ่า

นายกาดี ไอเซนคอต หัวหน้าเสนาธิการทหารอิสราเอล และนายเอวิกดอร์ ลีเบอร์แมน รมว.กลาโหมอิสราเอล ได้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวกับนายเนทันยาฮู โดยคาดว่าทั้งสามจะหารือกันเกี่ยวกับข้อเสนอของสหประชาชาติและอียิปต์เพื่อให้มีการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส

ทั้งนี้ กองกำลังของกลุ่มฮามาสได้ยิงจรวดจากฉนวนกาซ่าโจมตีดินแดนทางใต้ของอิสราเอลในวันนี้ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 24 ราย รวมถึงแรงงานหญิงคนหนึ่งของไทย ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส

แรงงานหญิงของไทยดังกล่าว ซึ่งอยู่ในวัย 30 ปี ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดจากเหตุการณ์โจมตีโรงงานในเขตเอชโคลที่เกิดขึ้นในเช้าวันนี้เวลา 06.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 10.00 น.ตามเวลาไทย

กองทัพอิสราเอลเปิดเผยว่า กองกำลังปาเลสไตน์ได้ยิงจรวดกว่า 180 ลูกจากฉนวนกาซ่าโจมตีดินแดนอิสราเอล นับตั้งแต่ที่ทั้ง 2 ฝ่ายเกิดการปะทะกันในวันพุธ ขณะที่เครื่องบินอิสราเอลได้โจมตีเป้าหมายทางทหารของกลุ่มฮามาสจำนวน 140 แห่ง รวมทั้งอุโมงค์ลับในฉนวนกาซ่า

เหตุการณ์ดังกล่าวนับเป็นเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่เดือนก.ค. ท่ามกลางความพยายามของสหประชาชาติและอียิปต์ในการเป็นคนกลางเจรจาไกล่เกลี่ยให้มีการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส