สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ถึงแม้เจ้าหน้าที่อังกฤษ และสหภาพยุโรป (EU) ระบุต่อสาธารณชนว่า พวกเขาต้องการที่จะบรรลุข้อตกลงเรื่องการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ภายในวันที่ 18 ต.ค. หรือภายในอีก 7 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นการประชุมสุดยอดผู้นำ EU แต่เบื้องหลังแล้ว พวกเขายอมรับว่าสิ่งนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้
แหล่งข่าวระบุว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่อังกฤษ และ EU ตั้งเป้าหมายที่จะบรรลุข้อตกลง Brexit ภายในกลางเดือนพ.ย.เป็นอย่างช้าที่สุด
การเลื่อนเส้นตายดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นว่าทั้งสองฝ่ายยังคงประสบปัญหาในการเจรจา และการกำหนดเส้นตายในเดือนพ.ย.ก็เป็นการส่งสัญญาณว่า EU อาจจัดการประชุมฉุกเฉินในเดือนดังกล่าวเพื่อพิจารณาเรื่องนี้
ทั้งนี้ ผู้นำ EU มีกำหนดหารือกรณี Brexit ในการประชุมสุดยอดที่เมืองซัลส์บูร์กในกลางเดือนก.ย. และอีกครั้งหนึ่งในเดือนต.ค.ที่กรุงบรัสเซลส์
การที่อังกฤษและ EU เลื่อนเส้นตายในการทำข้อตกลง Brexit ออกไปอีกนั้น สะท้อนให้เห็นว่า ตัวแทนการเจรจาของทั้งสองฝ่ายกำลังเผชิญกับความท้าทายในการบรรลุข้อตกลง โดยความเสี่ยงที่เห็นได้ชัดในขณะนี้ก็คือ ยิ่งใกล้วันที่อังกฤษจะแยกตัวออกจาก EU อย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มี.ค.ปีหน้ามากเท่าใด โอกาสที่ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงได้นั้น ก็ยิ่งเป็นไปได้ยากมากขึ้นเท่านั้น
จนถึงขณะนี้ อังกฤษและ EU ยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลง แม้จะมีเวลาอีกไม่ถึง 8 เดือนก่อนถึงวันที่อังกฤษจะถอนตัวออกจาก EU อย่างเป็นทางการ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังคงมีความคิดเห็นไม่ตรงกันในประเด็นสำคัญหลายประเด็น
หลายฝ่ายกังวลว่า การถอนตัวจาก EU แบบไม่มีข้อตกลงจะส่งผลให้อังกฤษเผชิญผลกระทบในหลายด้าน ซึ่งรวมถึงการถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากยุโรป, ต้นทุนบัตรเครดิตที่ปรับตัวสูงขึ้น, งานเอกสารข้ามชายแดนมีความยุ่งยากมากขึ้น, การขาดแคลนยารักษาโรค, ภาวะไฟฟ้าดับ และอาจต้องหยุดให้บริการทางหลวงพิเศษในเมืองโดเวอร์ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ใช้ในการเดินทางไปยังฝรั่งเศส